ยุบล แก้วศิลาวนาพรรณ ชื่นอิ่มYubol KaewsilaWanaphan Chuen-imมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี. ภาควิชาพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี. งานบริหารการรักษาพยาบาล2022-09-302022-09-302565-09-302556รามาธิบดีเวชสาร. ปีที่ 36, ฉบับที่ 3 (ก.ค.-ส.ค. 2556), 218-2250125-3611 (Print)2651-0561 (Online)https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/79737บทนำ: ความสุขในการทำงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนสร้างสรรค์ผลงานและเพิ่มผลผลิตเพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาระดับความสุขในการทำงานของบุคลากรในหน่วยตรวจผู้ป่วยนอก และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับความสุขในการทำงานของบุคลากรที่ให้บริการในหน่วยตรวจผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลรามาธิบดี วิธีการ: กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พยาบาลหัวหน้าหน่วย พยาบาลชำนาญการ พยาบาลผู้ปฏิบัติการพยาบาลชั้นสูง พยาบาลผู้ปฏิบัติงานพยาบาล และผู้ปฏิบัติงานบริหาร จำนวน 328 คน ที่ปฏิบัติงานในหน่วยตรวจผู้ป่วยนอกนานกว่า 1 ปีของทั้ง 14 หน่วย ได้แก่ หน่วยตรวจเด็ก อายุรกรรม ศัลยกรรม ออร์โธปิดิกส์ เวชศาสตร์ครอบครัว จิตเวช สูติกรรม นรีเวช เวชศาสตร์ฟื้นฟู ตา หู-คอ-จมูก ทันตกรรม เวชศาสตร์นิวเคลียร์ และผิวหนัง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคล และแบบสอบถามความสุขในการทำงานด้านความพึงพอใจในชีวิต ความพึงพอใจในการทำงาน ด้านอารมณ์ทางบวกและด้านอารมณ์ทางลบ ตรวจหาความเที่ยงของเครื่องมือโดยใช้หาค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาคได้ค่าเท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล กับความสุขในการทำงาน โดยใช้ค่าไคสแควร์ (Chi-square) และออดเรโช (Odds-Ratio) ผลการวิจัย: ความสุขในการทำงานของบุคลากรในหน่วยตรวจผู้ป่วยนอกในโรงพยาบาลรามาธิบดี อยู่ในระดับสูงทั้งหมด โดยความสุขในการทำงานด้านอารมณ์ทางบวกมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด (mean = 4.10 SD = 0.54) รองลงมาคือความสุขในการทำงานด้านอารมณ์ทางลบ (mean = 3.85 SD = 0.90) ส่วนความสุขในการทำงานด้านความพึงพอใจในชีวิตและความพึงพอใจในงานมีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากัน (mean = 3.73 SD = 0.64) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านประชากร ได้แก่ อายุ ระดับ การศึกษา สถานภาพสมรส และรายได้ ส่วนด้านการทำงานได้แก่ ตำแหน่งการปฏิบัติงาน สถานภาพการทำงาน และประสบการณ์การทำงาน ไม่มีความสัมพันธ์กับความสุขในการทำงานของบุคลากรในหน่วยตรวจผู้ป่วยโรงพยาบาลรามาธิบดี ข้อเสนอแนะ: การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน การหาวิธีส่งเสริมให้บุคลากรมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรอยู่กับองค์กรได้นาน มีรายได้ สวัสดิการ และค่าตอบแทนสูง จะทำให้บุคลากรทำงานอย่างมีความสุขBackground: Happiness in workplace was an important factor to make personnels create and gain productivity to achieve organizational goals. Objective: To study the level of happiness in workplace of personnels working at outpatient departments, Ramathibodi Hospital and investigate relationship between demographic factors, working factors and the happiness in workplace of personnels. Methods: Subjects were 328 staffs who have been working for a year or more. All 14 outpatient departments were Pediatric, Medicine, Surgery, Orthopedic, Family Medicine, Psychiatry, Obstetrics, Gynecology, Rehabilitation Medicine, Eye, Ear-Nose-Throat, Dental, Nuclear Medicine, and Skin. They consisted of 1) headnurse/nurse specialist/advanced practice nurse 2) registered nurse 3) assistant nurse and 4) ward clerk. The data were collected by using questionnaires that assessed the happiness in workplace. This happiness included life satisfaction, work satisfaction, positive affect and negative affect. Its reliability by Cronbach’s alpha coefficient which was 0.95. The data were analysed by using percentage, mean, standard deviation, chi-square, and odds ratio. Results: Most of them were happy at high and medium level but low level was not found. The mean of positive affect was high level (mean = 4.10, SD = 0.54) and negative affect was high level as well (mean = 3.85, SD = 0.90). Life satisfaction and work satisfaction were the same level (mean = 3.73, SD = 0.64). Demographic factors including age, marital status, educational level, and working factors including position, type of employment and duration of work were not significantly correlated with their happiness. Conclusions: On the way of Buddhism, personnels believe that caring the patients in hospital is merit so they feel happy and fulfill. It makes their life be valued from valued experiences. The result suggests that the position as expected and working environment are the elements would be promoted and improved to allow for more productivity and happiness.thaมหาวิทยาลัยมหิดลความสุขความสุขในการทำงานบุคลากรหน่วยตรวจผู้ป่วยนอกHappyHappiness in workplacePersonelOutpatient departmentOPDความสุขในการทำงานของบุคลากรที่ให้บริการผู้ป่วยนอกในโรงพยาบาลรามาธิบดีHappiness in Workplace of Healthcare Personnels Working at Outpatient Departments, Ramathibodi HospitalOriginal Articleภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลงานบริหารการรักษาพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล