ปริยากร บุญญามหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล2019-04-302019-04-302562-04-302559วารสารสังคมศาสตร์บูรณาการ. ปีที่ 3, ฉบับที่ 2 (ก.ค.-ธ.ค. 2560), 145-1642350-983xhttps://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/43798การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ วัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับความสุขในการทำงานระดับการสนับสนุนทางสังคมและระดับ ประสิทธิภาพในการทำงาน 2) อิทธิพลของความสุขในการทำงานและการ สนับสนุนทางสังคมที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ พยาบาลจำนวน 208 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และสมการถดถอยเชิงพหุ ผลการศึกษา พบว่า 1) ความสุขในการทำงานโดยรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า คะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูงทุกด้าน โดยพบว่า การ เป็นที่ยอมรับมีคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านความสำเร็จในงาน ด้าน การติดต่อสัมพันธ์ และด้านความรักในงาน ตามลำดับ การสนับสนุนทางสังคม โดยรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจาารณารายด้าน พบว่า คะแนนเฉลี่ยทุกด้านอยู่ใน ระดับสูง โดยด้านการสนับสนุนด้านวัตถุสิ่่งของหรือบริการมีคะแนนเฉลี่ยสูง ที่สุด รองลงมาคือด้านการสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร และด้านการสนับสนุน ด้านอารมณ์ ประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาล โดยรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ค่าเฉลี่ย ประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้ง 3 ด้านอยู่ในระดับสูง เรียงตามลำดับจากมากไปน้อยได้ดังนี้ ด้านการให้ บริการอย่างก้าวหน้ามากที่สุด รองลงมาคือด้านการให้บริการอย่างรวดเร็ว และทันเวลา ด้านการให้บริการอย่างเท่าเทียมกัน และคะแนนเฉลี่ยอยู่ใน ระดับปานกลางจำนวน 1 ด้าน คือ ด้านการให้บริการอย่างเพียงพอ 2) พบว่า ประสิทธิภาพในการทำงาน = 2.434 + 0.2986 (การสนับสนุนทางสังคม) + 0.0475 (ความสุขในการทำงาน) โดยสมการนี้สามารถอธิบายประสิทธิภาพใน การทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลได้ร้อยละ 18.3 (R2 = 0.183)thaมหาวิทยาลัยมหิดลความสุขในการทำงานการสนับสนุนทางสังคมประสิทธิภาพในการทำงานวารสารสังคมศาสตร์บูรณาการIntegrated Social Science Journalความสุขในการทำงาน การสนับสนุนทางสังคม ที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลHappy Workplace and Social Support Affect to Efficiency of Staff in HospitalArticleคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล