สุธารัตน์ ชําานาญช่างSutharat Chamnanchangปนัดดา ปริยทฤฆPanudda Priyatrukกนกพร หมู่พยัคฆ์Kanokporn Moopayakมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์2018-07-292018-07-292561-07-292557วารสารพยาบาลศาสตร์. ปีที่ 32, ฉบับที่ 3 (ก.ค. -ก.ย. 2557), 42-51https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/21874วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยนํา ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ทัศนคติต่อมะเร็งเต้านม ความมั่นใจต่อการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ปัจจัยเอื้อ ได้แก่ ความสะดวกในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และปัจจัยเสริม ได้แก่ แรงสนับสนุนทางสังคม กับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยแรงงาน รูปแบบการวิจัย: การวิจัยศึกษาความสัมพันธ์เชิงพรรณนา วิธีดําเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างคือ สตรีวัยแรงงานที่ทํางานในสถานประกอบกิจการ อําเภอเขาสมิง จังหวัดตราด จํานวน 116 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ทัศนคติต่อมะเร็งเต้านม ความมั่นใจต่อการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ความสะดวกในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และการได้รับแรงสนับสนุนทางสังคม วิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สถิติสหสัมพันธ์สเปียร์แมน ผลการวิจัย: สตรีวัยแรงงานตรวจเต้านมด้วยตนเองสม่ำเสมอทุกเดือนเพียงร้อยละ 11.2 โดยตรวจถูกต้องในระดับต่่ำร้อยละ 55.2 และพบตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยแรงงานอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม (r = .35, p < .001) ความมั่นใจต่อการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (r = .35, p < .001) ความสะดวกในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (r = .22, p < .05) แรงสนับสนุนทางสังคม (r = .25, p < .05) และไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อมะเร็งเต้านมกับพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองสรุปและข้อเสนอแนะ: พยาบาลประจําาสถานประกอบกิจการหรือบุคลากรทีมสุขภาพที่เกี่ยวข้องควรมีการส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และเสริมสร้างความมั่นใจในประเด็นของการสังเกตความผิดปกติของเต้านม และการตรวจโดยการคลํา รวมทั้งจัดอํานวยความสะดวกโดยการหาแหล่งบริการคําแนะนําในห้องพยาบาลหรือห้องพักพนักงาน และประสานงานกับเจ้าของสถานประกอบกิจการเพื่อจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับสตรีวัยแรงงานPurpose: This study was aimed at investigating factors related to breast self-examination behaviors including predisposing factors: knowledge of breast cancer, attitude toward breast cancer, confidence in breast self-examination; enabling factors: convenience in breast self-examination; and reinforcing factors: social support among women workers.Design: Descriptive correlational research.Methods: The study sample consisted of 116 women workers who worked at enterprises in Khoasaming District, Trat Province. Data were collected by means of administering a set of questionnaires: demographic characteristics, a knowledge of breast cancer, an attitude toward breast cancer, a confidence in breast self-examination, a convenience in breast self-examination, and a social support. Relationships among the study variables were determined using Spearman’s rank correlation.Main findings: The study findings revealed that 11.2% of the women workers performed breast self-examination on a monthly basis. More than half, or 55.2%, had a low level of correctness in breast self-examination. It was also found that the factors of knowledge (r = .35, p < .001), confidence (r = .35, p < .001), convenience (r = .22, p < .05), and social support (r = .25, p < .05) were related to breast self-examination behaviors among women workers with statistical significance. However, there was no relationship between attitude toward breast cancer and breast self-examination behaviors among women workers.Conclusion and recommendations: Nurses in enterprises and related healthcare team members should promote knowledge of breast cancer, particularly breast self-examination methods, among women workers. Nurses should also encourage them to be confident in observing abnormalities of the breasts using palpation technique as well as facilitate advisory services in a hospital or staff rooms.thaมหาวิทยาลัยมหิดลพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองสตรีวัยแรงงานวารสารพยาบาลศาสตร์Journal of Nursing ScienceOpen Access articleปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยแรงงานFactors Associated with Breast Self-examination Behaviors among Women WorkersArticleคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล