สุวรรณา ชนะภัยSuwanna Chanapaiนิตยา สินสุกใสNittaya Sinsuksaiนันทนา ธนาโนวรรณNanthana Thananowanวรรณา พาหุวัฒนกรWanna Phahuwatanakornมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะพยาบาลศาสตร์จังหวัดสระแก้ว. โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว. ฝ่ายการพยาบาล2018-07-242018-07-242561-07-242557วารสารพยาบาลศาสตร์. ปีที่ 32, ฉบับที่ 1 ( ม.ค. - มี.ค. 2557), 51-60https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/21838วัตถุประสงค์:เพื่อศึกษาอํานาจทํานายของ อายุ ความรู้ ทัศนคติ การรับรู้สมรรถนะในตนเอง การสนับสนุนจากสามีหรือญาติ และการสนับสนุนจากพยาบาล ต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 สัปดาห์ในมารดาหลังคลอดบุตรคนแรก รูปแบบการวิจัย: การศึกษาความสัมพันธ์เชิงทํานาย วิธีดําเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาและทารกหลังคลอดครบกําหนด ที่หอผู้ป่วยสูติ-นรีเวชกรรมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว จํานวน 117 ราย โดยใช้เครื่องมือ 7 ชุด ประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แบบสอบถามทัศนคติเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะในตนเองในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แบบสอบถามการสนับสนุนจากพยาบาลในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แบบสัมภาษณ์การสนับสนุนจากสามีหรือญาติในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และแบบสัมภาษณ์การให้อาหารทารก วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและสถิติถดถอยโลจิสติค ผลการวิจัย: ปัจจัยที่สามารถทํานายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 สัปดาห์ในมารดาหลังคลอดบุตรคนแรกได้อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ คือ อายุ ความรู้ ทัศนคติ การรับรู้สมรรถนะในตนเอง การสนับสนุนจากสามีหรือญาติ และ การสนับสนุนจากพยาบาล สามารถร่วมกันทํานายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 สัปดาห์ได้ร้อยละ 26.7 (R2 = .267, p < .05) แต่มีเพียงการสนับสนุนจากสามีหรือญาติ และการรับรู้สมรรถนะในตนเอง ที่ทํานายได้อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ(p < .05) สรุปและข้อเสนอแนะ:พยาบาลควรช่วยสนับสนุนให้มารดาหลังคลอดมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองโดยการให้ความรู้ และฝึกทักษะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในขณะเดียวกันควรนําสามีและญาติใกล้ชิดเข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนรู้ เพื่อให้สามีหรือญาติสามารถให้การสนับสนุนมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้Purpose: To investigate the predictive power of age, knowledge, attitude, self-efficacy, spousal or relative support, and nurse support on 6-weeks exclusive breastfeeding in primiparous postpartummothers.Design: Predictive correlational research.Methods: A sample consisted of 117 primiparous postpartum mothers and their full-termnewborns in a postpartum ward, Sakaeo Crown Prince Hospital, Sakaeo province. The instrumentsused to collect data included seven instruments: the demographic characteristics questionnaire, thebreastfeeding knowledge questionnaire, the Iowa Infant Feeding Attitude Scale (IIFAS), theBreastfeeding Self-Efficacy Scale-Short Form (BSES-SF), the nursing support for breastfeedingquestionnaire, the spousal or relative support interview, and the infant feeding interview. Data wereanalyzed using descriptive statistics and logistic regression.Main findings: The findings revealed that age, knowledge, attitude, self-efficacy, spousal and nursesupport could explain 26.7% of variance in 6-weeks exclusive breastfeeding. However, only spousalsupport and self-efficacy were significant predictors. (R2 = .267, p < .05)Conclusion and recommendations: The results suggest that nurses should enhance mother’s self-efficacy by providing knowledge and practice of breastfeeding. At the same time spouse or relativesshould be included, to enabling them to provide support to the mothersthaมหาวิทยาลัยมหิดลการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวความรู้ทัศนคติการรับรู้สมรรถนะในตนเองการสนับสนุนวารสารพยาบาลศาสตร์The Journal of Nursing ScienceOpen Access articleความรู้ ทัศนคติ การรับรู้สมรรถนะในตนเองและการสนับสนุนจากสามีและพยาบาลในการทํานายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 สัปดาห์Knowledge, Attitude, Self-Efficacy, Spousal and Nurse Support Predicting 6-weeks Exclusive BreastfeedingArticleคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล