เฉลิมชัย นิลสุวรรณโฆษิตปรางทิพย์ ศิริชื่นวิจิตรวรพล บุญญบาลChalermchai NilsuwankhositPrangtip SirichuenvichitWorapol Boonyabanมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี. ภาควิชาวิทยาศาสตร์สื่อความหมายและความผิดปกติของการสื่อความหมายสำนักการแพทย์. โรงพยาบาลกลาง. กลุ่มงานโสต คอ นาสิก2022-09-222022-09-222565-09-222559รามาธิบดีเวชสาร. ปีที่ 39, ฉบับที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค. 2559), 234-2430125-3611 (Print)2651-0561 (Online)https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/79613วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาที่ใช้ในการฝึกพูดให้ชัดในเด็กพูดไม่ชัด 2 กลุ่มที่ใช้แบบฝึกที่คำนึงถึงการออกเสียงร่วม (co-articulation) และแบบฝึกทั่วไป วิธีการวิจัย: ผู้วิจัยได้ทำการสุ่มเด็กพูดไม่ชัดอายุ 3-6 ปี จำนวน 30 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มเด็กที่ฝึกพูดโดยใช้แบบฝึกที่คำนึงถึงการออกเสียงร่วม จำนวน 15 คน และกลุ่มเด็กที่ฝึกพูดผ่านแบบฝึกทั่วไป จำนวน 15 คน ผลการศึกษา: ระยะเวลาของการฝึกพูดให้ชัด โดยใช้แบบฝึกที่คำนึงถึงการออกเสียงร่วมมีค่าเฉลี่ย 2.66 สัปดาห์ ส่วนการฝึกพูดโดยใช้แบบฝึกทั่วไป มีค่าเฉลี่ย 4.66 สัปดาห์ ผลการวิจัยนี้ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าการฝึกพูดไม่ชัดที่ใช้การออกเสียงร่วมจะใช้เวลาในการฝึกพูดสั้นกว่าการฝึกพูดโดยใช้แบบฝึกทั่วไป ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างแต่ละกลุ่มมีจำนวนน้อย อีกทั้งเสียงที่พูดไม่ชัดก็มีฐานกรณ์และลักษณะการออกเสียงแตกต่างกันในแต่ละบุคคล สรุป: การฝึกพูดไม่ชัดที่ใช้แบบฝึกการออกเสียงร่วม เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถใช้ฝึกเด็กพูดไม่ชัดให้สามารถพูดภาษาไทยชัดเจนขึ้นได้ จากผลการวิจัยนี้ สามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาต่อ โดยนำไปสร้างเป็นแบบฝึกหัดการพูดไม่ชัด ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพในทางคลินิกต่อไปObjective: The purpose of this research was to compare a period of time in speech training for children with articulation disorders by using 2 types of exercises, the co-articulation and general exercise. Patients and Methods: Thirty children with articulation disorders were randomly selected and divided into 2 groups. Group 1 (n =15) was trained by a co-articulation exercise was used; and group 2 (n=15) by using a general articulation exercise. The data of this study were analyzed by descriptive statistics. Results: Average period of time of speech accuracy in the co-articulation group was 2.66 weeks and 4.66 weeks for the general group. However, the result cannot be concluded that the duration of using the co-articulation exercise was shorter than the duration of using general exercise because the sample size of each group is small and varieties of articulation placements and manners of speech sounds. Conclusion: The co-articulation exercise is another beneficial method for improving articulation skills in Thai language. The results of this study can be the guideline to develop articulation exercises for people with articulation disorders which could be a standard and effective tool for using in a clinical setting.thaมหาวิทยาลัยมหิดลพูดไม่ชัดฝึกพูดนักแก้ไขการพูดการออกเสียงร่วมArticulation disordersSpeech trainingSpeech and LanguagePathologistCo-articulationการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาในการฝึกพูดให้ชัด ระหว่างการใช้แบบฝึกที่คำนึงถึงการออกเสียงร่วมและแบบฝึกA Comparison of Duration of Speech Accuracy Between Co-articulation Exercise and General Exercise in Children with Articulation DisordersOriginal Articleภาควิชาวิทยาศาสตร์สื่อความหมายและความผิดปกติของการสื่อความหมาย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลกลุ่มงานโสต คอ นาสิก โรงพยาบาลกลาง สำนักการแพทย์