ณัฐณิชา พึ่งสาระพิมพ์ชนก ศรศิริวัฒน์2025-04-242025-04-242568-04-242567https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/109735"การนวดไทย" ถือเป็นมรดกภูมิปัญญาที่เป็นศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ดั้งเดิมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและเป็นการรักษาทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพตามแบบแผนตะวันตกสมัยใหม่ มีการใช้การนวดไทยในการดูแลสุขภาพในครัวเรือนและชุมชนทั่วทุกภาคของประเทศ การนวดไทยนอกจากจะได้รับความนิยมในประเทศไทยแล้ว ยูเนสโกยังได้ประกาศให้การนวดไทยเป็นมรดกโลกทางภูมิปัญญาอย่างเป็นทางการด้วย (กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, 2562) จึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความนิยม เดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจึงร่วมพัฒนาองค์ความรู้ด้านการนวดไทยด้วยการขยายตลาดในต่างแดน ล่าสุดได้ขยายตลาดในสวิตเซอร์แลนด์ (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, 2559) ช่วยให้คนไทยประกอบอาชีพด้านการนวดไทยได้อย่างมีคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานในหลักวิชาการ ภายใต้ภูมิปัญญาอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ส่งผลให้การนวดไทยเป็นที่ยอมรับและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อนานาประเทศ ในปัจจุบันประเทศไทยต้องเสียดุลการค้าอย่างมาก ต้องซื้อยาจากต่างประเทศด้วยเงินมหาศาลต่อปี การนวดถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยทำให้ประชาชนไม่ต้องพึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่จำเป็น การนวดเพื่อสุขภาพเป็นการมุ่งเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพทั้งสุขภาพทางกายและจิตใจ ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้ดีขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของน้ำเหลือง ช่วยลดและระงับความเจ็บปวดได้ จะเห็นได้ว่า "การนวดไทย" ถึงแม้ว่าจะมีผลดีต่อสุขภาพหลายด้าน โดยเฉพาะการนวดทั้งตัวช่วยกระตุ้นระบบต่าง ๆ ของร่างกาย หลังจากการนวดเสร็จแล้วร่างกายจะรู้สึกสบายทั้งตัว ในระบบบริการสาธารณสุขจึงให้การยอมรับการนวดไทยเป็นวิธีการในการรักษาสุขภาพและผ่อนคลายที่ดีทางหนึ่ง (กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, 2562) แต่ในปัจจุบันการนวดไทยมีการนวดที่หลากหลาย และมีการเรียนการสอนหลายสถาบัน กระทรวงสาธารณสุขได้แบ่งการนวดออกเป็น 2 สำนัก คือการนวดแบบราชสำนัก ผู้นวดจะใช้นิ้วมือและมือในการนวดเท่านั้น มักจะนวดให้กับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์ และการนวดแบบทั่วไป (เชลยศักดิ์) เป็นการนวดในระดับชาวบ้าน ผู้นวดสามารถใช้อวัยวะต่าง ๆ นอกเหนือจากนิ้วมือและมือในการนวดได้ เช่น ใช้ศอก เข่า และเท้า เป็นต้น และมีท่านวดที่ช่วยยืดเหยียดผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้หลายท่า โดยการดัด การบิด การสับ การเหยียบ การตบ เป็นต้น ทำให้การนวดแบบทั่วไป (เชลยศักดิ์) ได้รับความนิยมจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านมักทำงานหนัก มีอิริยาบถการทำงานที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ความเครียดจากการทำงาน ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานนวดจึงต้องใช้ความชำนาญเป็นอย่างมากในการปฏิบัติงานนวดแบบทั่วไป (เชลยศักดิ์) เพราะอาจก่อให้เกิดความบาดเจ็บและเป็นอันตรายแก่ผู้รับบริการ เช่น กระดูกแตกหัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน เป็นต้น และผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการนวด หลักพื้นฐานการนวด เทคนิคต่าง ๆ ในการนวด รวมถึงต้องทราบถึงข้อห้าม ข้อควรระวัง และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการนวดอีกด้วย ดังนั้น ผู้จัดทำจึงมีความประสงค์จัดทำคู่มือปฏิบัติงานนวดเพื่อสุขภาพแบบทั่วไป (เชลยศักดิ์) ฉบับนี้ โดยอาศัยประสบการณ์ที่ได้ศึกษา รวบรวมความรู้จากตำรา เอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และทราบถึงข้อห้าม ข้อควรระวัง ในการให้บริการนวด มุ่งเน้นความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ หากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้จัดทำคู่มือฉบับนี้ยินดีน้อมรับเพื่อจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข ในครั้งต่อไป59 หน้า, Full Text (Intranet only)application/pdfthaผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าการนวดเพื่อสุขภาพการนวดเพื่อสุขภาพแบบทั่วไป (เชลยศักดิ์)แพทย์แผนไทยแพทย์แผนไทยประยุกต์คู่มือปฏิบัติงานผลงานการขอเลื่อนตำแหน่งผลงานบุคลากรสายสนับสนุนคู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง นวดเพื่อสุขภาพแบบทั่วไป (เชลยศักดิ์)Work Manualโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล