ณัฐรัฐ ไมมะหาดอัมรินทร์ คงทวีเลิศเด่นศักดิ์ ยกยอนสุธรรม นันทมงคลชัยNattarat MaimahadAmarin KongtawelertDensak YogyornSutham Nanthamongkolchaiมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะสาธารณสุขศาสตร์. ภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะสาธารณสุขศาสตร์. ภาควิชาอนามัยครอบครัว2022-10-202022-10-202565-10-202565วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข. ปีที่ 8, ฉบับที่ 3 (ก.ย.-ธ.ค. 2565), 427-4422697-6285 (Online)https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/79934ประเทศไทยเป็นทั้งผู้ผลิตและส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก สัดส่วนปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางแท่ง เทียบกับสินค้ายางพาราทั้งหมดในปี 2563 คิดเป็นร้อยละ 46.43 และมีแนวโน้มการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น การส่งเสริมพฤติกรรมความปลอดภัย จึงมีความสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีของคนทำงาน การวิจัยแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรอบรู้ทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัย และพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงาน กลุ่มตัวอย่างคือพนักงานฝ่ายปฏิบัติการในโรงงานอุตสาหกรรมยางแท่งแห่งหนึ่งในประเทศไทย จำนวน 270 คน เก็บตัวอย่างโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลอธิบายตัวแปรโดยสถิติพรรณนา, หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรโดยใช้สถิติเปรียบเทียบ t-test, สถิติทดสอบความแปรปรวน (One–way ANOVA) และทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Pearson’s Correlation) ผลการวิจัยพบว่าพนักงานฝ่ายปฏิบัติการ เป็นเพศชาย ร้อยละ 65.56 อายุเฉลี่ย 39.0 ปี (+ 8.7 ปี) โดยรวมมีความรอบรู้ทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัยอยู่ในระดับพอใช้ ( = 156.11) ระดับพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานอยู่ในระดับดี ( = 4.14) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านประสบการณ์การทำงาน, ตำแหน่งงาน, กลุ่มสถานที่ทำงาน และการทำงานล่วงเวลา มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) และพบว่า ความรอบรู้ทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัยทั้ง 6 ด้าน มีความสัมพันธ์เชิงบวก (r = 0.488) กับพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) ดังนั้นจึงควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาความรอบรู้ทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัย เพื่อให้พนักงานมีทักษะในการเข้าถึง เข้าใจ ซักถาม ประเมิน ตัดสินใจ ปรับใช้ และบอกต่อ ในการดูแลสุขภาพทั้งต่อตนเองและผู้อื่น รวมทั้ง แนวทางในการปรับปรุงระดับพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดยเพิ่มเติมโปรแกรมส่งเสริมทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัย และปัจจัยส่วนบุคคล เช่น การให้คำปรึกษาและอบรมพนักงานโดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของพนักงาน การส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีของคนทำงานทุกคน เป็นต้นThailand is the number one producer and exporter of rubber in the world. The proportion of the export volume of block rubber products compared to all rubber products in 2020 was 46.43%. This sector has the tendency to expand continuously. Promoting safety behaviors is conducive to the good health of working people. The purpose of this cross-sectional research was to study the relationship between personal factors, occupational health literacy, and safety behaviors. The sample group consisted of the operating staff in a block rubber factory in Thailand, a total of 270 people. The data were collected by questionnaires. The descriptive variables were analyzed by descriptive statistics and the correlation was determined by t-test, one-way ANOVA test for variance, and Pearson's Correlation coefficient test. The result showed that the operating staff was 65.56% male with a mean age of 39.0 years (+ 8.7 years) with mediocre occupational health literacy ( = 156.11). Their safety behavior level was at a good level (= 4.14). Personal factors including work experience, job position, workplace group, and overtime are correlated with safety behavior at work with the statistical significance (p-value <0.05). It was found that the occupational health literacy in all six elements was positively correlated (r = 0.488) with safety behaviors with the statistical significance (p-value <0.05). Therefore, the development of occupational health literacy should be promoted to provide the employees with skills to access, understand, ask, assess, make decisions, apply, and tell others about good practices in health care for themselves and others. The guidelines for improving the level of safe behaviors at work related to personal factors should also be promoted through methods like counseling and training employees by more experienced employees, promoting a working environment that is conducive to the health of all workers, etc.thaมหาวิทยาลัยมหิดลความรอบรู้ทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัยพฤติกรรมความปลอดภัยในการทํางานโรงงานอุตสาหกรรมยางแท่งOccupational Health LiteracySafety BehaviorBlock Rubber Industryความรอบรู้ทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัยและพฤติกรรมความปลอดภัยในการทํางานของพนักงานฝ่ายปฏิบัติการ: กรณีศึกษาโรงงานอุตสาหกรรมยางแท่งแห่งหนึ่งในประเทศไทยOccupational Health Literacy and Safety Behavior of Operation workers: A case study of Block Rubber Industry, ThailandOriginal Articleภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลภาควิชาอนามัยครอบครัว คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล