ประเสริฐไชย สุขสอาดPrasertchai Suksa-ard2025-05-142025-05-142568-05-142566วารสารสหศาสตร์. ปีที่ 23, ฉบับที่ 1 (ม.ค.-มิ.ย. 2566), 2-201513-8429https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/110097การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเชิงคุณธรรมจริยธรรมของละเมิดเครื่องหมายการค้ากีฬาของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกีฬา โดยใช้ข้อมูลมาจากโครงการวิจัย MUSSIRB No: 2021/109(B1) ทั้งหมด 407 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลใช้จำนวน ร้อยละ และสถิติ ค่าไคสแควร์ (χ2- test) ผลการวิจัย พบว่า เพศ การศึกษา และรายได้มีความสัมพันธ์กับความตระหนักในคุณธรรมจริยธรรมกับการละเมิดเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกีฬา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยสามารถนำผลที่ได้จากการวิจัยในครั้งนี้เป็นแนวทางการพัฒนาการใช้คุณธรรมจริยธรรมเพื่อลดปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้ากีฬาของผู้ประกอบการ เช่น ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกีฬา ได้มีโอกาสเข้าร่วมการอบรมการใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดเป็นประจำเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติ และความตระหนักถึงผลเสียที่เกิดขึ้นจากการกระทำละเมิดเครื่องหมายการค้า เปิดช่องทางการแจ้งเบาะแสที่เป็นความลับเฉพาะและหลากหลายช่องทาง ในการแจ้งแหล่งจำหน่ายสินค้าที่มีการละเมิดเครื่องหมายการค้าให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งมีประกาศ ชมเชย ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าที่ไม่ละเมิดเครื่องหมายการค้า และจำเป็นต้องมีการสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว โรงเรียน สถานประกอบการ ผู้ขาย และผู้ซื้อสินค้าให้ตระหนักในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมกับการละเมิดเครื่องหมายการค้าในอุตสาหกรรมกีฬาThe purpose of this research was to determine relationships between the moral and ethical factors of sport trademark infringement by sports industry entrepreneurs. Using data from the research project MUSSIRB No: 2021/109(B1), a total of 407 people were analyzed using numbers, percentages, and Chi-Square Statistic (χ2- test). The results showed that gender, education, and income were related to morality awareness and trademark infringement of sport industry entrepreneurs at a statistical significance of 0.05 level. The results from this research can be used as a development guideline for morality and ethics implementation to reduce the problem of sports trademark infringement by entrepreneurs, for example, allowing sport industry entrepreneurs to have the opportunity to regularly attend trainings on laws related to infringement in order for them to have knowledge, understanding, practice and awareness of the negative consequences arising from infringement of trademarks. In addition, a variety of confidential whistleblowing channels should be introduced to notify the source of the trademark infringing products to those involved with law enforcement. Moreover, announcements to compliment entrepreneurs who sell products that do not infringe trademarks should be strongly encouraged. Finally, strengthening family institutions, schools, establishments, sellers and buyers to raise awareness of virtue ethics and trademark infringement in the sports industry are particularly essential.application/pdfthaผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าTrademark Infringementthe Moral factorsSports Industry Entrepreneursการละเมิดเครื่องหมายการค้าปัจจัยเชิงคุณธรรมจริยธรรมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกีฬาResearch Articleคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล