ณรงค์ชัย ปิฎกรัชต์ปณิธิ เถาทอง2024-02-052024-02-05254825482548วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (ดนตรี))--มหาวิทยาลัยมหิดล, 25489740463029https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/94393ดนตรี (มหาวิทยาลัยมหิดล 2548)การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเรื่องขลุ่ยพื้นเมืองในวัฒนธรรมดนตรีล้านนา โดยกำหนดพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ใช้กระบวนการวิจัยทางมนุษยดนตรีวิทยา(Ethnomusicology) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติลักษณะทางกายภาพ บทบาทหน้าที่ และการบรรเลงของขลุ่ยพื้นเมือง โดยจะศึกษาข้อมูลจากภาคเอกสารและภาคสนาม ผลการวิจัยพบว่า ขลุ่ยยังคงมีบทบาทที่สำคัญในการบรรเลงดนตรีในวงพื้นเมืองล้านนาที่เรียกว่า วงสะล้อ -ซึง วงสะล้อ-ซึงนิยมนำมาแสดงในงานประเพณี การละเล่นพื้นบ้าน เทศกาลพื้นเมืองต่างๆ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถบรรเลงเพลงได้หลากหลาย และบรรเลงเพลงประกอบการฟ้อนต่างๆ ได้ ขลุ่ยเป็นเครื่องดนตรี ประเภทเครื่องเป่าที่ไม่มีลิ้น ไม่มีรูนิ้วค้ำ มีรู 7 รู ให้ระดับเสียงที่สูง ขลุ่ยอยู่ในวัฒนธรรมดนตรีล้านนามาเป็นระยะเวลานาน ได้มีการพัฒนารูปแบบมาจากขลุ่ยของดนตรีไทยมาตรฐาน ทั้งในรูปแบบทางกายภาพ และการบรรเลง เพื่อในสอดคล้องกับสังคมและวัฒนธรรมดนตรีล้านนา ลักษณะแนวทำนองของขลุ่ยมีความต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน เรียกได้ว่ามีการร้อยเรียงทำนองอย่างดี ขลุ่ยได้สร้างสรรค์ทำนองในบทเพลงพื้นเมือง โดยมีความโดดเด่น และลักษณะเฉพาะตัว ผลการวิเคราะห์ลักษณะการบรรเลงทำนองของขลุ่ยในบทเพลงปราสาทไหว พบว่าลักษณะแนวทำนองของขลุ่ยที่ใช้ในบทเพลงมีลักษณะที่มีเอกลักษณะเฉพาะถิ่น อันเกิดจากการสร้างทำนองที่ในรูปแบบของการแปรทำนองหรือด้นซึ่งเป็นลักษณะที่สำคัญ โดยมีพื้นฐานจากทำนองหลักของบทเพลงเดิมที่ยังคงลักษณะรักษาไว้ในจังหวะตกของบทเพลง จากนั้นจึงแปรทำนองออกไป โดยอาศัยประสบการณ์ และทักษะทางดนตรีของนักดนตรี ที่เป่าเป็นส่วนสำคัญ ในการสร้างสรรค์ทำนองใหม่ที่ต่างไปจากทำนองเดิม แต่ยังคงรักษารูปแบบของทำนองเพลงเอาไว้"The purpose of this research is to study about the traditional vertical khlui (flute) in Lanna music culture. The area of study is in Chiang Mai province. The research uses the Ethnomusicology method, and focuses on the khlui's history, function and playing techniques. The data is from the documents and field work. The Khlui is still has an important role in the "salo-seung", a Lanna traditional music ensemble that is usually performed at traditional ceremonies festivals and associated accompanying dances. The Klui can be played in many genres of music. It is a woodwind instrument that has no reed and no thumbhole. It has seven finger holes and has a high pitch. The Khlui has been part of Lanna music culture over a long period. The properties and playing techniques developing from khlui a musical instrument for culture of Thailand. The melodic line of khlui music is perpetual, continuing melody. The melody is well arranged. The Khlui creates folk melodies prominently with its own characteristic. The result of analyzing khlui's melodic line of a piece "prasat wai" found that the melody has its own folk style. The important elements are use of variations and improvisation based on the original melody on the down beats. The variations are mainly made from the musician's own experience and playing skill."(ญ), 114 แผ่น : ภาพประกอบสีapplication/pdfthaผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าขลุ่ยดนตรีพื้นบ้าน -- ไทย -- ล้านนาวัฒนธรรมล้านนาขลุ่ยพื้นเมืองในวัฒนธรรมดนตรีล้านนาTraditional vertical Khlui in Lanna music cultureMaster Thesisมหาวิทยาลัยมหิดล