สุณีย์ กัลยะจิตรธัญลักษ์ รุจิภักดิ์ฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุลณัฏฐาภรณ์ โสกัณฑัต2024-01-222024-01-22255725672557วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (อาชญาวิทยาและงานยุติธรรม))--มหาวิทยาลัยมหิดล, 2557https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/93459อาชญาวิทยาและงานยุติธรรม (มหาวิทยาลัยมหิดล 2557)การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยด้านจิตวิทยา ครอบครัวและชุมชน การคบเพื่อนที่กระทำผิดและปัจจัยค่านิยมการใช้ความรุนแรงในสถาบันมีความสัมพันธ์กับระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง และเปรียบเทียบระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของสถาบันอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามกับนักเรียนนักศึกษาอาชีวศึกษาที่มีหรือเคยมีพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง ในการทะเลาะวิวาท จำนวน 400 คน และ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจงค่าความถี่ ค่าอัตราส่วนร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เปรีบเทียบ (Independent t-test) และ การวิเคราะห์ถดถอยพหุแบบเชิงชั้น (Hierarchical multiple regression analysis) ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยที่สัมพันธ์และสามารถพยากรณ์ระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง ได้แก่ ปัจจัยด้านจิตวิทยา ปัจจัยด้านการคบเพื่อนที่กระทำผิด โดยวิเคราะห์ผ่านปัจจัยค่านิยมการใช้ความรุนแรงในสถาบันซึ่งส่งผลทำให้ปัจจัยทั้ง 2 ด้านนี้มีความสัมพันธ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง ส่วนปัจจัยด้านครอบครัวและชุมชน เมื่อนำมาวิเคราะห์นั้นพบว่า มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงแต่เมื่อนำมาวิเคราะห์ผ่านปัจจัยค่านิยมการใช้ความรุนแรงในสถาบัน นั้นพบว่า ปัจจัยด้านครอบครัวและชุมชนไม่มีความสัมพันธ์ทางตรงแต่มีความสัมพันธ์ทางอ้อมกับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง โดยปัจจัยที้ง 3 ด้าน สามารถพยากรณ์ระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง กรณีศึกษาการทะเลาะวิวาทได้ร้อยละ 57.3 จากการศึกษาระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง (x̄ = 2.77) และจากการศึกษาเปรียบเทียบระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของสถาบันอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน พบว่า ค่า p มีค่า 0.58 (มากกว่า 0.05) ระดับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงในสถานศึกษาอาชีวศึกษาสังกัดรัฐบาล (x̄=2.73) และ เอกชน (x̄=2.78) จึงไม่มีความแตกต่างกันThis research intended to explore the psychological factors, family and community, students' association with mischievous friends and the relationships between the popular use of violence in the institution and violent behavior. In addition, the comparative studies on violent behavior during quarrels among 400 private and public vocational students were done to analyze data with the Distribution of frequency, Percentage, Mathematical mean, Standard deviation, including the Independent t-test and the Hierarchical multiple regression analysis. The research findings derived from the analysis on the popular use of violence in institutions revealed that factors relating to predicting violent behavior were psychological and associated with mischievous friends. These 2 factors related directly and indirectly with the violent behavior. As for family and community were factors, the findings revealed the severity of the violence. Nonetheless, the analysis engaging the popular use of violence in the institution indicated that family and community related indirectly, but not directly with the severity of the violence. All 3 factors could predict the severity of violence from the case study by quarrel among vocational students as high as 57.3%, whereas the violent behavior remained at a moderate level (x¯ = 2.77). The comparative study on violent behavior among the vocational students in both private and public sectors indicated a p value of 0.58 (higher than 0.05). Thus, the differences in violence behavior were unfounded between the public vocational institutions (x¯ = 2.73) and private vocational institutions (x¯ = 2.78).ก-ญ, 147 แผ่นapplication/pdfthaผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าความรุนแรงในวัยรุ่น -- ไทย -- กรุงเทพฯนักเรียนอาชีวศึกษา -- ไทย -- กรุงเทพฯพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง : กรณีศึกษาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษาในเขตกรุงเทพมหานครViolence behavior : a case study by quarrel's vocational student in BangkokMaster Thesisมหาวิทยาลัยมหิดล