อาภาพร เผ่าวัฒนาสุนีย์ ละกำปั่นวีณา เที่ยงธรรมพิมพ์รัตน์ ธรรมรักษา2024-01-172024-01-17255325672553วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การพยาบาลสาธารณสุข))--มหาวิทยาลัยมหิดล, 2553https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/93066การพยาบาลสาธารณสุข (มหาวิทยาลัยมหิดล 2553)การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมพัฒนาทักษะครูใน การสอนเพศศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูประจำชั้นระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 2 โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สพท.เขต 2 จังหวัดสมุทรปราการ แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่ม เปรียบเทียบ กลุ่มละ 45 คน ระยะเวลาในการศึกษา 6 สัปดาห์ เป็นระยะทดลอง 2 สัปดาห์ และระยะ ติดตามผล 4 สัปดาห์ โดยใช้โปรแกรมที่ประยุกต์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม และทฤษฏีการรับรู้ สมรรถนะแห่งตน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม เครื่องมือประกอบด้วย แบบวัดเจตคติต่อ การสอนเพศศึกษา แบบวัดการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการสอนเพศศึกษา และแบบวัดการสอน เพศศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ยมัชฌิมเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน Independent t-test, Paired t-test และ Repeated measure one-way ANOVA, Pair comparison (Bonferroni) ผลการวิจัยพบว่า ในระยะติดตามผลกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยเจตคติต่อการสอน เพศศึกษา การรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการสอนเพศศึกษา และการสอนเพศศึกษาสูงกว่าก่อนการ ทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <.001) และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติ (p-value <.001) ทั้งในระยะหลังการทดลองและติดตามผล ผลการวิจัยครั้งนี้สนับสนุนว่าโปรแกรมที่ประยุกต์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมและการ รับรู้สมรรถนะแห่งตนสามารถส่งเสริมเจตคติที่ดีและเพิ่มการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการสอน เพศศึกษา ซึ่งนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสอนเพศศึกษาของครูก-ฏ, 213 แผ่น : ภาพประกอบapplication/pdfthaผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าครู -- การศึกษาและการสอนเพศศึกษา -- การศึกษาและการสอนโรงเรียนมัธยมศึกษาMaster Thesisมหาวิทยาลัยมหิดล