Onanong BualaSomsak SuthutvoravutSanya PatrachaiVachira Singhakajenอรอนงค์ บัวลาสมศักดิ์ สุทัศน์วรวุฒิสัญญา ภัทราชัยวชิระ สิงหะคเชนทร์Mahidol University. Faculty of Medicine Siriraj Hospital. Department of Obstetrics and GynecologyMahidol University. Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital. Department of Obstetrics and GynecologyMahidol University. Faculty of Public Health. Department of Biostatistics2022-10-112022-10-112022-10-112009Ramathibodi Medical Journal. Vol. 32, No. 3 (Jul-Sep 2009), 128-1360125-3611 (Print)2651-0561 (Online)https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/79897Background: During the postpartum period, urinary problems are common in women and may lead to chronic illness. Objective: This study aims to determine the incidence and factors associated with urinary problems in postpartum women who delivered vaginally at Siriraj Hospital. Material and Method: Study design was descriptive research. Data was collected by using a questionnaire to interview postpartum women within 48 hours after childbirth. During May 2008-June 2008, 198 postpartum women were recruited. Data was analyzed by descriptive statistical analysis which test the hypothesis of association between the variables, the chi-square test was used. Significance level of 0. = 0.05 was applied. Results: The incidence of urinary problems in postpartum women in this study was 59.1%, included urinary dysuria 54.5 %, urinary retention 6.0% and urinary incontinence 3.0%. There were 9 women (4.5%) who had more than 1 problem. Factors which had significant association with urinary problems were gestational age at delivery, parity, and the duration of the first stage of labour. A factor which had a significant association with dysuria was the duration of the first stage of labour. Conclusion: Urinary problems, especially dysuria, in postpartum women who had vaginal delivery were common. Proper care during labour would prevent these problems.ปัญหาในการปัสสาวะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสตรีโดยเฉพาะในระยะหลังคลอด และอาจจะเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไป การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาในการปัสสาวะ และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับ ปัญหาในการปัสสาวะในสตรีระยะหลังคลอดที่คลอดบุตรทางช่องคลอด ในโรงพยาบาลศิริราช การวิจัยในครั้งนี้เป็นการ วิจัยเชิงพรรณนา เก็บข้อมูลโดยติดตาม ชักถามปัญหาในการปัสสาวะภายใน 48 ชั่วโมงของสตรีระยะหลังคลอดที่ คลอดบุตรทางช่องคลอด ในโรงพยาบาลศิริราช จำนวน 198 คน ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2551 - กรกฎาคม 2551 และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน อัตรา ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ สมมุติฐานใช้ค่า Chi-square test ที่ระดับ gif.latex?\alpha = 0.05 ผลการศึกษาพบว่า อุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาในการปัสสาวะพบร้อยละ 59.1 เป็นปัญหาปัสสาวะแสบขัด ร้อยละ 54.5 ปัสสาวะค้างร้อยละ 6.0 และกลั้นปัสสาวะไม่ได้ร้อยละ 3.0 มีสตรีหลังคลอดที่มีปัญหาในการปัสสาวะ มากกว่า 1 อย่างร้อยละ 4.5 ปัญหาในการปัสสาวะในสตรีวะยะหลังคลอด มีความสัมพันธ์กับอายุครรภ์ขณะคลอด ลำดับของการคลอด และระยะเวลาของการคลอดในระยะที่หนึ่ง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ปัญหาปัสสาวะแสบขัดในระยะหลังคลอด มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาของการคลอดในระยะที่หนึ่ง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สรุปปัญหาในการปัสสาวะในสตรีระยะหลังคลอดที่คลอดบุตรทางช่องคลอด ในโรงพยาบาลศิริราช เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาปัสสาวะแสบขัด ปัจจัยในดูแลการคลอดมีความสัมพันธ์กับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงควรมีการพิจารณาหาแนวทางการดูแลการคลอดที่เหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหาในการปัสสาวะภายหลังคลอดengMahidol UniversityUrinary problemsPostpartumDysuriaUrinary retentionUrinary incontinenceOriginal ArticleDepartment of Obstetrics and Gynecology Faculty of Medicine Siriraj Hospital Mahidol UniversityDepartment of Obstetrics and Gynecology Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital Mahidol UniversityDepartment of Biostatistics Faculty of Public Health Mahidol University