ไชยพร ยุกเซนรพีพร โรจน์แสงเรืองChaipool YuksenRapeeporn Rojsaengroengมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี. ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน2022-09-302022-09-302565-09-302556รามาธิบดีเวชสาร. ปีที่ 36, ฉบับที่ 3 (ก.ค.-ส.ค. 2556), 191-1980125-3611 (Print)2651-0561 (Online)https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/79734ที่มา: มีการนำ Facebook มาใช้เป็นสื่อกลางในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลรามาธิบดี การศึกษานี้เป็นการศึกษาถึงพฤติกรรมการใช้ Facebook : ERRAMA ของนักศึกษาแพทย์ที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิก วัตถุประสงค์: ศึกษาพฤติกรรมการใช้ Facebook ในระบบการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ในห้องฉุกเฉิน วิธีการศึกษา: สร้าง Facebook ชื่อ ERRAMA และแนะนำให้นักศึกษาที่ขึ้นปฏิบัติงานทุกคนสมัครเป็นสมาชิกและใช้ Facebook ERRAMA เพื่อการเรียนรู้ตัวอย่างผู้ป่วยที่น่าสนใจ หลังจากนั้นมีการเก็บข้อมูลของการใช้ Facebook ในแต่ละวันตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2554 ถึง 14 กรกฎาคม 2554 ผลการศึกษา: จำนวนนักศึกษาที่สมัครเป็นสมาชิก Facebook มีจำนวน 200 คน เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 จำนวน 112 คน คิดเป็นร้อยละ 70 ของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 ทั้งหมด และนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 จำนวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 72 ของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ทั้งหมด บทความส่วนใหญ่เป็นตัวอย่างผู้ป่วยที่น่าสนใจในห้องฉุกเฉิน คิดเป็นร้อยละ 41 จำนวนครั้งของนักศึกษาที่เข้ามาอ่านบทความเฉลี่ย 378 ครั้งต่อบทความ มีการแสดงความคิดเห็นต่อบทความต่างๆ เฉลี่ย 3.4 ครั้งต่อบทความ สรุป: การใช้ Facebook : ERRAMA ในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ในห้องฉุกเฉิน เป็นที่นิยมของนักศึกษาแพทย์ นักศึกษามีความสนใจเข้ามาอ่านบทความวิชาการจำนวนมาก แต่มีการแสดงความคิดเห็นต่อบทความวิชาการน้อย (เฉลี่ยไม่เกิน 4 ความคิดเห็นต่อบทความ) และบทความที่มีรูปภาพประกอบได้รับความสนใจในการเข้าชมและแสดงความคิดเห็นมากกว่าบทความที่มีรูปประกอบBackground: “Facebook” is being used as an educational tool in emergency room. This study will look at the use of social networking website like Facebook as a training tool for medical students. Objective: This study focusses on the utilization of social networking website “Facebook” in educational training of medical students in the Emergency room. Methods: ERRAMA facebook website was create. The medical students were advised to become a member of the website and utilize it as a source of their educational training in study of interesting cases. The data was collected from the daily use of the website by the medical students from March 16, 2011, to July 14, 2011. Results: A total of 200 students applied for the membership of Facebook: ERRAMA. Out of these, 112 were 5th year medical students (70% of Year 5 students) and 88 were 6th year medical students (67% of Year 6 students). From a total of 470 cases uploaded on the website, 41% were interesting cases, an average read of 378 per case and the average comments made per case was 3.4. Conclusions: The use of social networking website Facebook: ERRAMA as an educational tool for medical students in the Emergency room received good responses with high visiting counts. The students were interested in reading the case with high attendance per case but the average comment per case was low (about 4 comments per case). The topics that contain images are popular, based on the numbers uploaded and visited by student.thaมหาวิทยาลัยมหิดลSocial NetworkingWebsiteFacebookEducational TrainingOriginal Articleภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล