สรนิต ศิลธรรมมาศโมฬี จิตวิริยธรรมศลิษา ธาระสวัสดิ์วนิดา ธนากรกุลทรงพล ทองมูลสงมหาวิทยาลัยมหิดล. ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก2018-04-202018-04-202561-04-202557https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/10927การประชุมวิชาการประจำปีศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกครั้งที่ 2 . ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล, นครปฐม. 2 เมษายน 2557. หน้า 1-138การส่งต่อผู้ป่วย เป็นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างสถานบริการสาธารณสุขหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งโดยมีการส่งต่อข้อมูลอาการและเอกสารสำคัญ เพื่อการรับบริการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เน้นความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่งยังคงเป็นปัญหาของทุกๆประเทศ อันเกิดจากความไม่พร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ สถานที่ ระบบขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยาก การวิจัยพัฒนาเชิงทดลอง ชนิดกลุ่มเดียววัดก่อน-หลัง การทดลอง นี้ เพื่อพัฒนางานส่งต่อผู้ป่วย สิ่งที่ศึกษา คือ รูปแบบงานส่งต่อผู้ป่วยที่พัฒนาขึ้น นำไปทดลองที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2555 ถึง 31 สิงหาคม 2555 โดยมีการปรับปรุงเป็นระยะๆ ด้วยหลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม กลุ่มตัวอย่าง คือ งานส่งต่อผู้ป่วยทั้งหมดในช่วง 1 เดือน ก่อนทดลอง 12 ครั้ง และ ในช่วง 1 เดือน หลังทดลอง 12 ครั้ง ในกลุ่มผู้เกี่ยวข้องที่เป็นผู้บริหาร 13 คน ผู้ปฏิบัติงาน 72 คน และ ผู้ป่วยหรือญาติ 24 คน เก็บข้อมูลจากแบบบันทึกการส่งต่อผู้ป่วย แบบสอบถาม แบบสังเกตุ แบบบันทึกเหตุการณ์ แบบบันทึกการประชุม เปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้วยค่าสถิติพรรณา การวิเคราะห์เนื้อหา ค่าสถิติChi-Square ค่าสถิติที ค่าสถิติแพร์ที ค่าสถิติวิลค๊อกซัน และค่าสถิติแมนวิทย์นียู ที่ระดับแอฟฟ่า 0.05 พบว่า ลักษณะผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังทดลองไม่แตกต่างกัน หลังการทดลอง อัตราส่วนปริมาณงานเฉลี่ยต่อแรงงานที่ใช้ในการให้บริการเพิ่มขึ้นจาก6.72 เป็น 10.47 ครั้ง/10,000คน-วินาที อัตราส่วนปริมาณงานเฉลี่ยต่อค่าแรงงานที่ใช้ในการให้บริการเพิ่มขึ้นจาก 7.73 เป็น 12.92 ครั้ง/10,000 บาท; ความถูกต้องของการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มงานประจำวันเพิ่มขึ้น จากร้อยละ98.51 เป็น 98.61 ความถูกต้องของการปฏิบัติงานตามมาตรฐาน เพิ่มขึ้น (p<0.001) ความพึงพอใจ ทั้งของผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน และ ผู้ป่วย/ญาติ เพิ่มขึ้น (p<0.001, p<0.001, และ p=0.048 ตามลำดับ); ระยะเวลาเฉลี่ยในการส่งต่อผู้ป่วยลดลงจาก 135 เหลือเพียง 52.5 นาที ต้นทุนในการให้บริการลดลงจาก 3,017.91 เป็น 2,318.33 บาท/ราย รูปแบบงานส่งต่อที่พัฒนาขึ้น ได้นำหลักวิชาการที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์โดยใช้ทรัพยากรเท่าที่มีอยู่ จัดทำเป็นเอกสารที่ชัดเจน ประกอบด้วย 9 ขั้นตอนหลัก และ คู่มือการส่งต่อผู้ป่วย ที่ช่วยให้การปฏิบัติงานส่งต่อชัดเจนเป็นแนวทางเดียวกัน ปัจจัยหลักที่นำสู่ความสำเร็จ คือ การมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง; บรรยากาศการทำงานเสมือนทีมครอบครัวเดียวกัน; การพัฒนางานประจำให้เป็นงานวิจัย; และ การสนับสนุนจากผู้บริหาร ได้เสนอแนะให้ดำเนินการพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยควรศึกษาให้ครอบคลุมทั้งแนวไปและกลับ; พัฒนาระบบสารสนเทศให้ครอบคลุมทั้งระบบ; พัฒนาเครือข่ายการส่งต่อผู้ป่วยร่วมกับภาคเอกชน; พัฒนาระบบการรับปรึกษาระหว่างโรงพยาบาล; พัฒนาระบบเครือข่ายการส่งต่อแบบไร้สังกัด; จนได้รูปแบบการรับส่งต่อผู้ป่วยที่สมบูรณ์ยิ่งๆขึ้น เป็นตัวอย่างของการพัฒนางานประจำสู่การวิจัยที่ไม่ยุ่งยากและมีประสิทธิภาพthaมหาวิทยาลัยมหิดลการสร้างเสริมสุขภาพการแพทย์ผสมผสานประชุมวิชาการการแพทย์แบบองค์รวมหนังสือรวมบทความการประชุมวิชาการประจำปีศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกครั้งที่ 2 เรื่องการแพทย์ผสมผสานและการสร้างเสริมสุขภาพIntegrative and preventive medicineProceeding Bookศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล