Saowapa PornsiripongseIam ThongdeePornthip UsuparatKriengsak Sueluerm2025-04-012025-04-01200220252002Thesis (M.A. (Rural Development Studies))--Mahidol University, 20029740418074https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/107341Rural Development Studies (Mahidol University 2002)The objectives of the study are to: 1) study the elderly's life in Ban Samphran Community including their problems and needs, and 2) study the role played by the community in the development of quality of life for the elderly in Ban Samphran Community and how the community develop. This is a qualitative study. The study was conducted by survey, observation, in-depth interview, formal and informal interview. The informants are the elderly in Moo 8 Ban Samphran Community. There are 35 of them (16 males and 19 females), the mayor of Samphran municipality, the abbot of Samphran temple and Bangchangnue temple, the director of Ban Samphran school, Sakonwitthaya school, Nakprasith school, Samphranwitthaya school and the chairperson of Samphran Public Charity Foundation. Firstly, the study found that: the target elderly, 11 persons who are self-reliant take care of the house, look after their grandchildren, cook, plants and cut grass. The target elderly, 24 persons who are dependents spend their time listening to radio, watching television, taking care of the house and watching the house. The target elderly who are dependents face physical, economic, social relationship, and mental problems respectively. Most of them need respect and care from their families. They need a salary, supporting jobs and elderly clubs and places to exercise. Secondly, the community needs to help to develop the quality of life for the elderly. The municipality should be holding up communal activities and cooperating with related agencies to help the elderly. The temples are a spiritual support and public park for them, and it is also a meeting places for the elderly and the rest of the communal members. The temples also help the elderly who face difficulty. The schools are emphasizing on the importance of the elderly. It is being centers for elderly and the communal member to join in activities together, and serving as exercising and leisure places. The foundation is the center for the elderly to participate in raising money for those who are in trouble. The target elderly was satisfied with what the community invited people to participate in activities. And guidelines for development of life quality for the elderly is to give knowledge and advice about health to people, elderly and marriage partners, including their children. The forming of public health centers as community health centers, and the creation of jobs will help the elderly to get a better life. Furthermore, to give money to the elderly who are in trouble, to organize activities for the elderly and people to join together, to give chances to them to transfer knowledge and experience, to teach students to realize about value of the elderly and to construct a place for them to exercise are the ways to help the elderly.การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ 2) ศึกษาบทบาทของชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ตลอดจนแนวทางเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยชุมชน ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้วิธีการสำรวจ การสังเกต การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกทั้งแบบ ทางการและไม่เป็นทางการ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักประกอบด้วย ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในเขตหมู่ที่ 8 ชุมชนบ้านสามพราน จำนวน 35 คน (ชาย 16 คน หญิง 19 คน) นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามพราน เจ้าอาวาสวัดสามพรานและวัดบางช้างเหนือ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสามพราน/โรงเรียนสกลวิทยา/โรงเรียนนาคประสิทธิ์และโรงเรียนสามพรานวิทยา และประธานมูลนิธิสาธารณะการกุศลสามพราน ผลการศึกษาพบว่า 1) ผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายจำนวน 11 คนเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้สูง- อายุเหล่านี้ได้ทำความสะอาดบ้าน หุงข้าว ทำกับข้าว ช่วยลูกหลานทำงานบ้าน เลี้ยงหลาน ปลูกต้นไม้ และดายหญ้า ส่วนผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จำนวน 24 คนได้ใช้เวลาว่างฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ ทำงานบ้านเล็กน้อย และ เฝ้าบ้านให้ลูกหลาน ผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จำนวน 24 คนส่วนใหญ่มีปัญหาสุขภาพกาย ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความสัมพันธ์ทางสังคม และปัญหาสุขภาพจิตตามลำดับ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงต้องการได้รับความเคารพนับถือ การดูแลเอาใจใส่จากบุตรหลาน ต้องการได้รับการบริการตรวจรักษาโรคและแจกยาฟรีต้องการเงินเดือน การจัดกิจกรรมเสริมรายได้ ต้องการการจัดตั้งชมรมผู้สูงอายุและที่สาธารณะสำหรับพักผ่อน/ออกกำลังกาย 2) ชุมชนได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยมีเทศบาลฯ เป็นแกนนำจัดกิจกรรมและประสานงานขอความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ วัดเป็นที่พึ่งทางใจ ที่พักผ่อนหย่อนใจ สร้างโอกาสให้ผู้สูงอายุกับคนในชุมชนทำกิจกรรมร่วมกัน และสงเคราะห์แก่ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยและเดือดร้อน โรงเรียนเชิญผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์มาถ่ายทอดความรู้ สร้างโอกาสให้ผู้สูงอายุและคนในชุมชนมาทำกิจกรรมร่วมกัน และเป็นที่พักผ่อน/ออกกำลังกายให้กับผู้สูงอายุ มูลนิธิฯ เป็นศูนย์กลางให้ผู้สูงอายุเข้าร่วมบำเพ็ญประโยชน์ และ สงเคราะห์แก่ผู้สูงอายุที่เดือดร้อน ผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่รู้สึกพอใจกับการที่ชุมชนเชิญชวนให้ผู้สูงอายุ ได้เข้าร่วมในกิจกรรมที่ชุมชนจัดขึ้น สำหรับแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยชุมชน ได้แก่ การให้ความรู้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรักษาสุขภาพอนามัยกับประชาชนทั่วไป ผู้สูงอายุ คู่สมรส และบุตรหลาน การจัดตั้งสถานีอนามัยเป็นศูนย์สุขภาพสำหรับชุมชน การสร้างอาชีพเสริมให้กับผู้สูงอายุ และให้เงินสิ่งของแก่ผู้สูงอายุเดือดร้อน การจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัวและคนในชุมชนได้ทำร่วมกัน เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์แก่นักเรียนและคนในชุมชน การอบรมสั่งสอนให้นักเรียนรู้จักให้ความรักความเคารพ เห็นคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ และการสร้างสวนสาธารณะที่ออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุix, 57 leavesapplication/pdfengผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าAgedCommunityQuality of lifeMaster ThesisMahidol University