Browsing by Author "กาญจนา เทียนลาย"
Now showing 1 - 3 of 3
- Results Per Page
- Sort Options
Publication Open Access ความสุขของประชากรชนบทใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(2555-03) จรัมพร โห้ลำยอง; ปราโมทย์ ประสาทกุล; กาญจนา เทียนลาย; มหาวิทยาลัยมหิดล. สถาบันวิจัยประชากรและสังคมบทความนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาสถานการณ์เกี่ยวกับความสุขและความทุกข์ของประชากรชนบทใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยจะศึกษาระดับและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสุขและความทุกข์เหล่านั้น การศึกษาใช้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ครัวเรือนตัวอย่างที่ได้จากการสุ่มเพื่อให้ได้ตัวแทนของประชากรชนบทใน3 จังหวัดนี้ของโครงการสำรวจคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งดำเนินการโดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ผลการวิเคราะห์พบว่า คะแนนความสุขของประชากรชนบทใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปีที่สำรวจ คือ พ.ศ. 2552 เท่ากับ 6.7 ซึ่งต่ำกว่าคะแนนความสุขเฉลี่ยของประเทศไทยที่เท่ากับ 7.5 ซึ่งคำนวณจากข้อมูลการสำรวจสภาวะทางสังคมและวัฒนธรรม ใน พ.ศ. 2551 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ผลการวิเคราะห์ด้วย Binomial Logistic Regression พบว่า ศาสนาประจำครัวเรือน ความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนในครัวเรือน และการเจ็บป่วยของครัวเรือน มีอิทธิพลต่อความสุขมาก และความทุกข์ของประชากรชนบทในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ครัวเรือนที่นับถือศาสนาพุทธมีความน่าจะเป็นที่ครัวเรือนจะมีความสุขมากสูงกว่าครัวเรือนที่นับถือศาสนาอิสลาม ในขณะที่ความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนในครัวเรือนเพิ่มขึ้น จะเพิ่มโอกาสให้ครัวเรือนมีความสุข และลดโอกาสที่ครัวเรือนจะมีความทุกข์ อาการเครียด โรคกระดูก/ข้อ/กล้ามเนื้อ/เอ็น และโรคไข้เลือดออก/ไข้ชิคุนกุนยาเป็นโรคที่ส่งผลกระทบความสุขของชนบทในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีบางครัวเรือนเท่านั้นที่เข้ารับการรักษาในสถานบริการทางสุขภาพ โดยเหตุผลของการปฏิเสธไม่ไปรับบริการในสถานบริการของรัฐมีความหลากหลาย เช่น ความรุนแรงของโรค ที่ตั้งของสถานบริการ และความพึงพอใจในการให้บริการItem Metadata only โครงสร้างและอิทธิพลของข่ายสังคมการศึกษาระดับมัธยมศึกษานอกหมู่บ้านต่อการย้ายถิ่นออกนอกหมู่บ้าน : การวิเคราะห์จากข้อมูลในพื้นที่เฝ้าระวังทางประชากรกาญจนบุรี(มหาวิทยาลัยมหิดล. หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล, 2552) กาญจนา เทียนลาย; โยธิน แสวงดีPublication Open Access พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ กับการใช้ถุงยางอนามัยของวัยรุ่น(2558) พจนา หันจางสิทธิ์; กาญจนา เทียนลาย; Pojjana Hunchangsith; Kanchana Thianlai; มหาวิทยาลัยมหิดล. สถาบันวิจัยประชากรและสังคมโรคเอดส์ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย วัยรุ่น ถือได้ว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญกลุ่มหนึ่ง การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและหาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้ถุงยางอนามัยของวัยรุ่น ที่ได้รับการสอนหลักสูตรเพศศึกษารอบด้านจำนวน 16 คาบขึ้นไปต่อปีการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง คือ วัยรุ่นที่เรียนอยู่ในโรงเรียนที่มีการดำเนินการจัดการสอนเพศศึกษารอบด้าน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือตอนปลาย จำนวน 954 คน สำรวจใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร อุดรธานี เพชรบุรี นครสวรรค์ และพัทลุง สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบ่งกลุ่มชนิด 2 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1 สุ่มโรงเรียนในแต่ละจังหวัด และขั้นตอนที่ 2 สุ่มห้องเรียนจากโรงเรียนที่สุ่มได้ เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม 2557 ผลการสำรวจพบว่า นักเรียนวัยรุ่นมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี มีความรู้ที่ถูกต้องตามตัวชี้วัดของ Global AIDS Response Progress Reporting ในระดับต่ำมาก ถึงแม้ว่าจะมีทัศนคติต่อถุงยางอนามัยในเชิงบวก แต่ไม่ได้ช่วยให้นักเรียนใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อย เฉลี่ย 14.5 ปี และมีจำนวนคู่นอนเฉลี่ย 1.8 คน และเมื่อทำการทดสอบไคสแควร์ พบว่า การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) กับการใช้ถุงยางอนามัยของวัยรุ่น โดยมีโอกาสมากกว่าถึง 8.4 เท่า (OR = 8.4; 95% CI: 1.9-37.7) ที่จะใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเทียบกับวัยรุ่นที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.005) ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า หลักสูตรเพศศึกษารอบด้าน ควรได้รับการพิจารณาขยายให้ครบทุกโรงเรียนทั่วประเทศ โดยเน้นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย การสอนและสาธิตการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีในวัยรุ่นได้