Journal Issue:
MMJ Vol. 7 No. 2

1

Journal Volume

Articles

PublicationOpen Access
แนวทางการจัดการเรียนการสอนเปียโนคลาสสิกระดับกลางของสถาบันเปียโนบางกอก
(2567) ขวัญชนก อิศราธิกูล; ปรีญานันท์ พร้อมสุขกุล; นิอร เตรัตนชัย; Kwanchanok Isarathikul; Preeyanun Promsukkul; Ni-on Tayrattanachai
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนเปียโนคลาสสิกระดับกลางในสถาบันเปียโนบางกอก และ 2) นําเสนอแนวทางการจัดการเรียนการสอนเปียโนคลาสสิกระดับกลางในรูปแบบคู่มืออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้วิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักจากสถาบันเปียโนบางกอก จํานวน 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน และ 2) กลุ่มครูเปียโน 10 ท่าน ใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างและการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลแบบอุปนัย และนําเสนอข้อมูลในรูปแบบเชิงพรรณนาวิเคราะห์จากการศึกษา พบว่า 1) สภาพการจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนยึดถือหลักการเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ โดยมีการออกแบบการเรียนการสอนตามความสามารถและองค์ความรู้เดิมของผู้เรียน และ 2) แนวทางการจัดการเรียนการสอน พบว่า (1) ด้านครูผู้สอน ควรมุ่งเน้นการทํางานร่วมกันในสถาบัน ระหว่างครูระดับศิลปิน ผู้ช่วยศิลปิน และครูผู้สอน และควรมีทัศนคติที่ยืดหยุ่นให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากครูท่านอื่น (2) ด้านผู้เรียน ควรเน้นการออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน ทั้งทางด้านร่างกาย อายุ ทักษะปฏิบัติ และความคาดหวังของผู้ปกครอง (3) ด้านการจัดการเรียนการสอน ควรมุ่งเน้นให้ผู้ปกครองและผู้เรียนมีส่วนรวมในการวางแผนการเรียนรู้ (4) ด้านสภาพแวดล้อม ควรคํานึงถึงการจัดพื้นที่ใช้สอยอย่างเหมาะสม การใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และเอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
PublicationOpen Access
แนวทางการผลิตเสียงสําหรับเครื่องกระทบคลาสสิก
(2567) วรรณภา ญาณวุฒิ; ธนสิทธิ์ ศิริพานิชวัฒนา; Wannapha Yannavut; Tanasit Siripanichwattana
งานวิจัยแนวทางการผลิตเสียงบนเครื่องกระทบคลาสสิก มุ่งเน้นไปที่การศึกษา รวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูล และนํามาสร้างแบบฝึกหัดเพื่อให้นักศึกษาได้ทดลองใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในการผลิตเสียงที่ดีตามความต้องการและแตกต่างกันตามสัญลักษณ์ที่ต่างกัน โดยทีมผู้วิจัยได้ประพันธ์โน้ตเพลงสําหรับกลองทอมให้กลุ่มนักศึกษาผู้เข้าร่วมทดลองจํานวน 9 คนได้ทําการบรรเลงและฝึกซ้อมหลังจากได้รับโน้ตเป็นเวลา 1 วันเต็ม จึงทําการบันทึกเสียง จากนั้นได้ให้นักศึกษากลุ่มทดลองเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการจากทีมผู้วิจัย เพื่อให้เข้าใจการทํางานของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ อาทิ นิ้ว ข้อมือ แขน หัวไหล่ เป็นต้น เพื่อสามารถผลิตเสียงให้มีความดัง เบา ชัด คม สั้น ยาว ลึก ฯลฯ แตกต่างกันตามสัญลักษณ์และค่าโน้ตที่ต่างกันได้ชัดเจนขึ้น จากนั้นทําการบันทึกเสียงอีกครั้ง และจากการบันทึกเสียงทั้ง 2 ครั้ง ได้นําคลื่นเสียงไปวางลงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทําให้ได้ทราบผลการวิจัยว่าเสียงที่ได้รับการฝึกใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ด้วยความเข้าใจมากขึ้นแล้ว ทําให้สามารถผลิตเสียงได้ตามความต้องการและตรงกับสัญลักษณ์ รวมทั้งค่าโน้ตต่างๆ ที่ปรากฏในบทประพันธ์ได้ชัดเจนขึ้น
PublicationOpen Access
วิเคราะห์การบรรเลงคีตปฎิภาณของออสการ์ ปีเตอร์สัน ในบทเพลงเดอะเกิร์ลฟรอมอิปาเนมา
(2567) กริชพล อินทนิน; Krichapol Inthanin
ผลงานการบรรเลงคีตปฎิภาณของออสการ์ ปีเตอร์สัน ในบทเพลงเดอะเกิร์ลฟรอมอิปาเนมา ถือเป็นบทเพลงที่ครบถ้วนทั้งความไพเราะและเนื้อหาสาระทางดนตรี บทความวิจัยนี้จึงได้นำเอาส่วนของคีตปฎิภาณมาวิเคราะห์ในแง่ของการประสานเสียงและจังหวะ รวมไปถึงเทคนิคเฉพาะตัวอื่น ๆ ผลการวิเคราะห์พบว่า การบรรเลงคีตปฎิภาณของออสการ์ได้ใช้การเลือกโน้ตที่อ้างอิงตามความสัมพันธ์ของคอร์ดและบันไดเสียงมาเพื่อสร้างท่วงทำนอง และในทางกลับกันยังสามารถใช้บันไดเสียงบลูส์มาสร้างทำนองโดยไม่ยึดโยงกับความสัมพันธ์ของคอร์ดได้อีกด้วย ในส่วนของจังหวะแสดงให้เห็นถึงเทคนิคในการเน้นและจับกลุ่มของโน้ต เพื่อสร้างให้เกิดทิศทางใหม่ ๆ ขึ้น โดยพบเทคนิคในการบรรเลงคีตปฎิภาณดังนี้ อัพเปอร์สตรัคเจอร์, ริธึมมิกดิสเพลสเมนท์, การใช้อาร์เปโจจากไดอาโทนิก, เฮมิโอลา, เทิร์นอะราวด์ และฮาร์โมนิกเจเนอรัลไลเซซัน
PublicationOpen Access
กระบวนการถ่ายทอดความรู้และเทคนิคการบรรเลงขลุ่ยในบทเพลงไทยลูกทุ่ง
(2567) ณัฐภัทร เรืองบุญ; ธันยาภรณ์ โพธิกาวิน; ปรีญานันท์ พร้อมสุขกุล; Nutthapat Ruangboon; Dhanyaporn Phothikawin; Preeyanun Promsukkul
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาชีวประวัติของผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรเลงขลุ่ยในบทเพลงไทยลูกทุ่ง ศึกษากระบวนการถ่ายทอดความรู้และเทคนิคการบรรเลงและสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ใช้ระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Study) โดยศึกษาแบบปรากฏการณ์วิทยาแนวการตีความ (InterpretativePhenomenology) กําหนดกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสําคัญเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรเลงขลุ่ย 7 ท่าน โดยใช้การคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) และการสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation)ผลการวิจัยพบว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 7 ท่าน มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการบรรเลงขลุ่ยในบทเพลงไทยลูกทุ่ง กระบวนการถ่ายทอดความรู้และเทคนิคในการบรรเลงขลุ่ยในบทเพลงไทยลูกทุ่งที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ ประกอบด้วย หลักการถ่ายทอดความรู้ วิธีการในการถ่ายทอดความรู้สําหรับเด็กและวิธีสําหรับผู้เรียนที่เป็นผู้ใหญ่ ขั้นตอนในการถ่ายทอดความรู้และจิตวิทยาในการสอน นอกจากนี้พบเทคนิคที่ใช้ในการบรรเลง ได้แก่ การนั่งและท่าทาง การจับขลุ่ย การใช้ลม การเลือกใช้ระบบนิ้ว การคัดเลือกขลุ่ย และการคัดเลือกบทเพลง ซึ่งได้พบปรากฏการณ์ที่สะท้อนความหมาย ดังนี้ ภูมิหลังของกระบวนการถ่ายทอดความรู้ พบว่าผู้เชี่ยวชาญนําประสบการณ์ในอดีตมาปรับใช้ในการสอนขลุ่ย พัฒนาการจากขลุ่ยไทยสู่ขลุ่ยไทยคีย์สากล พบว่าขลุ่ยมีการพัฒนาเรื่องวัสดุอุปกรณ์และเรื่องระบบเสียง ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับเทคนิคการบรรเลงขลุ่ย พบการปรับเทคนิคให้เหมาะสมกับการบรรเลงในบทเพลงไทยลูกทุ่ง การดํารงชีพของคนขลุ่ยในปัจจุบัน พบว่าคนขลุ่ยในปัจจุบันสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย เช่น นักดนตรีในห้องบันทึกเสียง นักสร้างสรรค์เนื้อหา และการเรียนรู้ในยุคใหม่พบว่าการเรียนดนตรีไทยสามารถเรียนรู้ได้จากสื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาที่ครบถ้วน การสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ประกอบไปด้วยบทที่ 1 ประวัติของผู้เชี่ยวชาญ บทที่ 2 กระบวนการถ่ายทอดความรู้ บทที่ 3 เทคนิคการบรรเลงขลุ่ยในบทเพลงไทยลูกทุ่ง
PublicationOpen Access
กระบวนการถ่ายทอดศิลปะการรําสวดของคุณวิชัย เวชโอสถ คณะรําสวดวิชัยราชันย์
(2567) ณฐพล วรรณจนา; ธันยาภรณ์ โพธิกาวิน; ปรีญานันท์ พร้อมสุขกุล; Nathapol Wanjana; Dhanyaporn Phothikawin; Preeyanun Promsukkul
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประวัติและผลงานด้านรําสวดของคุณวิชัย เวชโอสถ คณะรําสวดวิชัยราชันย์ และ 2) เพื่อศึกษากระบวนการถ่ายทอดศิลปะการรําสวดของคุณวิชัย เวชโอสถ คณะรําสวดวิชัยราชันย์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง คือ คุณวิชัย เวชโอสถ และกลุ่มลูกศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดศิลปะการรําสวดจากคุณวิชัย เวชโอสถ จํานวน 5 คน โดยคัดเลือกจากบุคคลที่ได้รับการถ่ายทอดศิลปะการรําสวดกับคุณวิชัย เวชโอสถ ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสัมภาษณ์แบบเจาะลึก แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบสังเกตแบบมีส่วนร่วมผลการวิจัยพบว่าคุณวิชัย เวชโอสถ เจ้าของคณะวิชัยราชันย์ เป็นผู้ที่มีผลงานการแสดงด้านการรําสวดเป็นที่ยอมรับในจังหวัดจันทบุรี ได้รับบัตรประกาศเกียรติคุณเป็นวิทยากรภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ความรู้เกี่ยวกับการแสดงรําสวด และได้ก่อตั้งคณะรําสวดวิชัยราชันย์มาแล้วร่วม 10 ปี โดยมีกระบวนการถ่ายทอดศิลปะการรําสวด แบบมุขปาฐะ คัดเลือกลูกศิษย์จากผู้ที่มีใจรักในการรําสวด โดยเริ่มจากการถ่ายทอดด้านดนตรี การร้อง และการรํา ใช้เทคนิคการถ่ายทอดตามหลักจิตวิทยาเพื่อสร้างแรงจูงใจ ในด้านเนื้อหาและบทเพลง ได้นําบทร้องจากเรื่องในวรรณคดีไทยต่างๆ ด้านการรําใช้นาฏยศัพท์พื้นฐานและท่ารํามาตรฐานเพื่อนํามาถ่ายทอด และใช้สื่อออนไลน์ในการถ่ายทอดเพื่อเพิ่มเติมการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังใช้การแสดงเพื่อวัดและประเมินผลในการถ่ายทอดความรู้ สถานที่ถ่ายทอดคือบ้านของคุณวิชัย จังหวัดจันทบุรี ลูกศิษย์ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในชุมชนใกล้เคียงที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง

Availability

Collections