ผลการเรียนรู้และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของบัณฑิตที่เรียนกลุ่มปกติและกลุ่มสองภาษา หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Abstract

วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล ระหว่างกลุ่มปกติและกลุ่มสองภาษา และประสบการณ์การเรียนของกลุ่มสองภาษา

รูปแบบการวิจัย: ใช้วิธีการศึกษาเชิงพรรณนา

วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นบัณฑิตพยาบาลศาสตรบัณฑิตที่จบในปีการศึกษา 2560 จากกลุ่มปกติ 30 คน และกลุ่มสองภาษา 21 คน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างตามความสะดวก เก็บข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถามผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และแบบสอบถามคุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และ Mann-Whitney U Test เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพในกลุ่มสองภาษาด้วยการสนทนากลุ่มและนำมาวิเคราะห์เชิงเนื้อหา

ผลการวิจัย: กลุ่มสองภาษาและกลุ่มปกติมีค่าเฉลี่ยคะแนนผลการเรียนรู้ และค่าเฉลี่ยคะแนนคุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ไม่แตกต่างกัน (p > .05) แต่กลุ่มสองภาษาสอบภาษาอังกฤษก่อนเข้าปฏิบัติงานผ่านเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดมากกว่ากลุ่มปกติ ประสบการณ์การเรียนในกลุ่มสองภาษาที่ได้รับคือ การได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษต่อเนื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพิ่มโอกาสเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา ได้เรียนเป็นกลุ่มเล็ก แบบ active learning อย่างไรก็ตามกลุ่มสองภาษาต้องขยันเรียนมากขึ้นเพื่อให้เข้าใจเนื้อหาที่เรียน

สรุปและข้อเสนอแนะ: กลุ่มสองภาษามีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนระดับมาก จึงควรเพิ่มจำนวนนักศึกษากลุ่มสองภาษา คณะพยาบาลศาสตร์ควรเตรียมอาจารย์ผู้สอนในหลักสูตร พัฒนาศักยภาพอาจารย์ในการสอนวิชาทางการพยาบาลเป็นภาษาอังกฤษ เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักศึกษา โดยการสร้างสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตได้สื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษ รวมถึงพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกลุ่มสองภาษาให้ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนต่อไป

Purpose: This study aims to examine and compare the learning outcomes and desired characteristics of graduates who enrolled in the regular group and the bilingual group, and describe the learning experiences of the bilingual group.

Design: Descriptive research design.

Methods: Thirty graduates of the regular group and 21 graduates of the bilingual group, who graduated in the 2017 academic year, were selected using convenience sampling. Participants completed two questionnaires: the learning outcomes of the Thai Qualifications Framework of Higher Education, and the desired characteristics of graduates of Mahidol University. Descriptive statistics and Mann-Whitney U Test were used to analyze the quantitative data. Qualitative data on the learning experiences were collected using focus group interviews with graduates in the bilingual group. These data were analyzed using the content analysis method.

Main findings: Between the regular and bilingual groups of participants, there was no difference in the mean scores of the learning outcomes and the desired characteristics of graduates (p > .05). However, graduates of the bilingual group had a higher English proficiency test score for job enrollment at Mahidol University than those of the regular group. Learning experiences from being students in the bilingual group included English skill improvement in classes with no extra cost, increased chance to enroll in the student exchange programs, and learning in a small group with an active learning method. However, the bilingual group has to work hard to comprehend lessons in their classes.

Conclusion and recommendations: Graduates of the bilingual group had a high level of satisfaction in teaching and learning, therefore the program should enroll more students in the bilingual group. The nursing institute should prepare faculty members for this program by enhancing and supporting their English teaching competency. To increase student’s ability in learning English the institute should facilitate environment and activities to promote English communication for students. Pattern of teaching and learning should also be developed for achieving the bilingual students’ needs.