ผลของโปรแกรมฉลาดบริโภคโดยประยุกต์แนวคิดการกำกับตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานนิดที่ 2 โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

Abstract

การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมฉลาดบริโภคโดยประยุกต์ แนวคิดการกำกับตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการ ที่คลินิกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คัดเลือกตัวอย่างตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 30 ราย แล้วแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย โดยการจับฉลากได้กลุ่ม ตัวอย่าง กลุ่มละ 15 ราย กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมฉลาดบริโภคเป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ ส่วนกลุ่ม เปรียบเทียบได้รับเอกสารเกี่ยวกับการควบคุมอาหารเบาหวาน เก็บรวบรวมข้อมูลก่อนและหลังการ ทดลองในสัปดาห์ที่ 12 ด้วยแบบสัมภาษณ์รวมถึงประเมินระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งระดับน้ำตาลใน เลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง (FBS) และระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) วิเคราะห์ข้อมูลด้วย สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่Chi-square,Pairedsamplet-test, Independent t-test และMann-Whitney U test ผลการศึกษา พบว่า หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนการรับรู้ความ สามารถของตนเอง ความคาดหวังในผลลัพธ์ของการควบคุมอาหาร และพฤติกรรมควบคุมอาหาร สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีระดับน้ำตาลในเลือดทั้งระดับ FBS และ HbA1c ต่ำกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม พบว่า กลุ่มทดลองมี คะแนนการรับรู้ความสามารถของตนเอง และพฤติกรรมควบคุมอาหารสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ไม่พบความแตกต่างของคะแนนความคาดหวังและระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งเมื่อหลังอดอาหารและน้ำตาลสะสมในเลือดระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ ดังนั้น โปรแกรมนี้สามารถนำไปประยุกต์เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เกิดการรับรู้ความสามารถของ ตนเองและพฤติกรรมควบคุมอาหารได้

This quasi-experimental research aimed to examine the effects of the Smart Diet Program for diabetes control in patients with type 2 diabetes. Based on the inclusion criteria, a sample of 30 patients was selected and randomly assigned to the experimental group or comparison group by drawing lots, with 15 patients in each group. The experimental group received the Smart Diet Program for 10 weeks. The comparison group received documents related to diabetes food control. Data collection was done during the pre and post-intervention program on the 12th weeks by interviewing the participants and also measuring their fasting blood sugar (FBS) and HbA1c levels. Data were analyzed using descriptive statistics, Chisquare, paired sample t-test, independent t-test, and Mann-Whitney U test. The results showed that after the program finished, the experimental group had significantly higher scores on perceived self-efficacy, outcome expectation of the diet control, and diet control behavior than before the experiment. Fasting blood sugar and HbA1c levels in the experimental group were significantly lower than those at the baseline. As compared to the comparison group, the experimental group had significantly higher scores on perceived self-efficacy and diet control behavior than did the comparison group. However, there were no statistically significant differences in outcome expectation of the diet control, fasting blood sugar, and HbA1c between the experimental group and the comparison group. Therefore, this program could be applied to develop the perceived self-efficacy and diet control behavior among type 2 diabetic patients.