Publication: Knowledge and Opinion of Thai Lawyers Towards Abortion Laws
Issued Date
2017
Resource Type
Language
eng
ISSN
0125-3611 (Print)
2651-0561 (Online)
2651-0561 (Online)
Rights
Mahidol University
Rights Holder(s)
Department of Obstetrics and Gynecology Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital Mahidol University
Department of Logistics Engineering School of Engineering University of the Thai chamber of Commerce
Department of Logistics Engineering School of Engineering University of the Thai chamber of Commerce
Bibliographic Citation
Ramathibodi Medical Journal. Vol. 40, No. 4 (Oct-Dec 2017), 29-38
Suggested Citation
Prapaporn Tonkaew, Somsak Suthutvoravut, Thoranin Sujjaviriyasup, ประภาพร ต้นแก้ว, สมศักดิ์ สุทัศน์วรวุฒิ, ธรณินทร์ สัจวิริยทรัพย์ Knowledge and Opinion of Thai Lawyers Towards Abortion Laws. Ramathibodi Medical Journal. Vol. 40, No. 4 (Oct-Dec 2017), 29-38. Retrieved from: https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/79589
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Thesis
Title
Knowledge and Opinion of Thai Lawyers Towards Abortion Laws
Alternative Title(s)
ความรู้และความคิดเห็นของนักกฎหมายไทยต่อกฎหมายการทำแท้ง
Abstract
Background: Unwanted pregnancy is a major social and public health problem which most often ends in termination of pregnancy and unsafe abortion which is causing the deaths and disabilities. There is still argument among Thai lawyers about suitability of abortion laws in Thai Criminal code.
Objectives: To study knowledge and opinion of the lawyers towards abortion laws.
Methods: This cross-sectional survey research. The sample group comprised of 265 Thai lawyers attended intensive course classes in law, in the Institute of Legal Education of the Thai Bar. Data were collected by using self-administered questionnaires. Statistics for data analysis were frequency, percentage, mean and standard deviation. Chi-square and Fisher’s exact test were used to test the association between variables. P < 0.05 was considered statistical level of significance.
Results: Mean age of lawyers was 28.3 ± 8.6 years. 51.3% were male. 94.0% were Buddhists. 90.6% were single. 86.0% had a bachelor’s degree. 81.5% had no experience involving abortion. 54.7% had fair knowledge about termination of pregnancy and 51.3% had fair knowledge about abortion laws. Most of them disagreed with present abortion laws (82.6%) and agreed with amendment of abortion laws (77.4%). Religion was significantly associated with the opinion on present abortion laws. Occupation and the number of children had significant association with opinion on amendment of abortion laws (P < 0.05).
Conclusions: Most Thai lawyers had fair knowledge about termination of pregnancy and abortion laws. Most of the lawyers disagreed with present abortion laws and agreed with amendment of abortion laws to suit the current situation.
บทนำ: การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์เป็นปัญหาทางสังคมและสาธารณสุขที่สำคัญ ซึ่งทางออกของปัญหาส่วนใหญ่ต้องจบลงด้วยการยุติการตั้งครรภ์และเป็นการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย อันเป็นสาเหตุของการตายและพิการ กฎหมายอาญาของไทยมีบทบัญญัติยกเว้นการลงโทษในกรณีการทำแท้งไว้แล้วแต่ยังมีข้อถกเถียงกันในหมู่นักกฎหมายไทยถึงความเหมาะสมของกฎหมายการทำแท้งในปัจจุบัน วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความรู้และความคิดเห็นต่อกฎหมายเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ของนักกฎหมาย ซึ่งเป็นผู้เข้ารับการอบรมที่สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา วิธีการศึกษา: การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจภาคตัดขวาง จำนวนตัวอย่าง 265 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรใช้การทดสอบไควสแควร์และการทดสอบฟิชเชอร์ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการศึกษา: อายุเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 28.3 ± 8.6 ปี กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 51.3) เป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด ร้อยละ 94.0 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 90.6 มีสถานภาพโสด ร้อยละ 86 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 54.7 ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการแท้งบุตร ร้อยละ 54.7 มีความรู้ระดับปานกลางในเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ และร้อยละ 51.3 มีความรู้ระดับปานกลางเรื่องกฎหมายการยุติการตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายการทำแท้งที่ใช้ในปัจจุบัน (ร้อยละ 82.6) และร้อยละ 77.4 เห็นด้วยให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม ปัจจัยด้านศาสนามีความสัมพันธ์กับความคิดเห็นต่อกฎหมายปัจจุบัน ส่วนปัจจัยด้านอาชีพและจำนวนบุตรมีความสัมพันธ์กับความคิดเห็นต่อการแก้ไขกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.05) สรุป: ส่วนใหญ่ของกลุ่มนักกฎหมายที่เข้ารับการอบรมที่สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตสภา มีความรู้เรื่องการยุติการตั้งครรภ์และกฎหมายการทำแท้งในระดับปานกลาง นักกฎหมายส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายปัจจุบันและเห็นด้วยหากมีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
บทนำ: การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์เป็นปัญหาทางสังคมและสาธารณสุขที่สำคัญ ซึ่งทางออกของปัญหาส่วนใหญ่ต้องจบลงด้วยการยุติการตั้งครรภ์และเป็นการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย อันเป็นสาเหตุของการตายและพิการ กฎหมายอาญาของไทยมีบทบัญญัติยกเว้นการลงโทษในกรณีการทำแท้งไว้แล้วแต่ยังมีข้อถกเถียงกันในหมู่นักกฎหมายไทยถึงความเหมาะสมของกฎหมายการทำแท้งในปัจจุบัน วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความรู้และความคิดเห็นต่อกฎหมายเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ของนักกฎหมาย ซึ่งเป็นผู้เข้ารับการอบรมที่สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา วิธีการศึกษา: การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจภาคตัดขวาง จำนวนตัวอย่าง 265 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรใช้การทดสอบไควสแควร์และการทดสอบฟิชเชอร์ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการศึกษา: อายุเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 28.3 ± 8.6 ปี กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 51.3) เป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด ร้อยละ 94.0 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 90.6 มีสถานภาพโสด ร้อยละ 86 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 54.7 ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการแท้งบุตร ร้อยละ 54.7 มีความรู้ระดับปานกลางในเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ และร้อยละ 51.3 มีความรู้ระดับปานกลางเรื่องกฎหมายการยุติการตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายการทำแท้งที่ใช้ในปัจจุบัน (ร้อยละ 82.6) และร้อยละ 77.4 เห็นด้วยให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม ปัจจัยด้านศาสนามีความสัมพันธ์กับความคิดเห็นต่อกฎหมายปัจจุบัน ส่วนปัจจัยด้านอาชีพและจำนวนบุตรมีความสัมพันธ์กับความคิดเห็นต่อการแก้ไขกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.05) สรุป: ส่วนใหญ่ของกลุ่มนักกฎหมายที่เข้ารับการอบรมที่สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตสภา มีความรู้เรื่องการยุติการตั้งครรภ์และกฎหมายการทำแท้งในระดับปานกลาง นักกฎหมายส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายปัจจุบันและเห็นด้วยหากมีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน