ความตรงของวิธีการวัดพื้นที่หน้าตัดปากแผล

Abstract

การศึกษาเชิงบรรยายเปรียบเทียบครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความตรงของวิธี วัดพื้นที่หน้าตัดปากแผลโดยใช้แผ่นใสวาดเส้นรอบรูปปากแผลและสแกนเป็นไฟล์ภาพ แล้วคำนวณพื้นที่หน้าตัดปากแผลด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop CS3 extended และโปรแกรม Image J โดยใช้เครื่องวัดขนาดแผล VisitrakTM เป็นเครื่องมือมาตรฐาน กลุ่มตัวอย่างเป็นแผล ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรามาธิบดี ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2555 จำนวน 30 แผล วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปด้วยสถิติบรรยาย วิเคราะห์ความแตกต่างโดย รวมระหว่างขนาดพื้นที่หน้าตัดปากแผลที่วัดด้วยเครื่อง VisitrakTM กับอีก 2 วิธี ด้วยร้อยละ เปรียบเทียบความแตกต่างขนาดพื้นที่หน้าตัดปากแผลของ 3 วิธี ด้วยสถิติ Friedman’s test และ สถิติ Wilcoxon Signed-Ranks test with Bonferroni correction ผลการศึกษาพบว่า พื้นที่หน้าตัด ปากแผลที่วัดด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop CS3 extended และโปรแกรม Image J มีขนาด ใหญ่กว่าที่วัดด้วยเครื่อง VisitrakTM ร้อยละ 0.37 และ ร้อยละ 2.50 ตามลำดับ ขนาดแผลที่วัด ด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ Adobe Photoshop CS3 extended และเครื่อง VisitrakTM ไม่แตกต่าง กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนที่วัดด้วยโปรแกรมวิเคราะห์ภาพ Image J แตกต่างอย่างมีนัย สำคัญทางสถิติกับทั้งที่วัดด้วยเครื่อง VisitrakTM และที่วัดด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ Adobe Photoshop CS3 extended ผลการศึกษาแสดงว่า วิธีการวัดพื้นที่หน้าตัดปากแผลโดยใช้ แผ่นใสวาดเส้นรอบรูปปากแผลร่วมกับคำนวณด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ Adobe Photoshop CS3 extended มีความแม่นตรง ใช้ง่าย และสะดวก ควรมีการนำไปใช้ในคลินิก แต่ก่อนใช้ควรมีการฝึก อบรมผู้ใช้โปรแกรมและตรวจสอบการปรับค่าพิกเซลเปรียบเทียบกับพื้นที่หน้าตัดปากแผล ที่ทราบขนาดพื้นที่ที่แท้จริง

This descriptive study aimed at investigating the validity of wound surface area measurement methods by placing a transparent plasters on the wound surface area and scanning it as a computer image file before calculating its size using the Adobe Photoshop CS3 Extended and Image J . A wound measurement device called the VisitrakTM was used as a reference tool. The subjects were 30 open wounds of patients who were treated at Ramathibodi Hospital from June to September 2012. The overall differences of wound areas measured from VisitrakTM and Adobe Photoshop CS3 Extended and Image J were analyzed using percentage and the wound surface areas measured from the three methods were compared using Friedman’s test and Wilcoxson Signed-Ranks test with Bonferroni correction. The finding showed that the size of wound surface areas measured with the Adobe Photoshop CS3 Extended and with Image J were .37% and 2.50% larger respectively than the VisitrakTM. The wound sizes measured with the Adobe Photoshop CS3 Extended and with VisitrakTM were not significantly different, while the size of wound surface areas measured with the Image J program was significantly different from those measured with the VisitrakTM and with the Adobe Photoshop CS3 Extended. In conclusion, Adobe Photoshop CS3 Extended is a valid tool for measuring the wound surface areas. The program is easy and convenient to use, so it should be used in a clinical setting after the users have undergone necessary training. The pixels should be examined and compared to the known actual size of wound surface area or a geometric shape.