คุณภาพชีวิตของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จังหวัดสมุทรสาคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณภาพชีวิตของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จังหวัดสมุทรสาคร เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จำนวน 384 คน นําเสนอผลด้วย จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบไคสแควร์ ผลการศึกษาพบว่า คุณภาพชีวิตของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จังหวัดสมุทรสาคร โดยรวมอยู่ในระดับต้องปรับปรุง (ร้อยละ 56.51) รายด้าน พบว่า ด้านจิตใจและด้านสุขภาพกาย ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี ด้านสัมพันธภาพทางสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่อยู่ในระดับต้องปรับปรุง (ร้อยละ 65.10, 56.77, 82.81 และ 87.50 ตามลำดับ) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ จำนวนสมาชิกที่อาศัยอยู่ด้วยกัน การใช้บริการสุขภาพในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา สถานบริการสุขภาพที่ใช้เป็นประจำ และบริการสุขภาพที่มักใช้ มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) ข้อเสนอแนะ ควรสร้างความเข้าใจกับนายจ้างในการจัดสวัสดิการด้านการเดินทาง การปรับปรุงที่พักอาศัย การปรับชั่วโมงการทำงาน และการจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ให้แก่แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ในส่วนของภาครัฐ ควรมีนโยบายสนับสนุนหรือร่วมกันกับนายจ้างในการจัดสวัสดิการ และด้านการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การจัดจ้างล่ามภาษาเมียนมา และการจัดทำเอกสารประชาสัมพันธ์เป็นภาษาเมียนมาให้มากขึ้น

This is a research on the quality of life among Myanmar migrant workers in Samut Sakhon Province. Data were collected from 384 persons by using questionnaires and analyzed for percentages, average, maximum, minimum and Chi-square test. The results of the study found that quality of life among Myanmar migrant workers in Samut Sakhon Province needs to be improved overall (56.51 percent). In each aspect, it was found that the mental and physical health were at a good level, while relationship, social and environmental aspects were at the level that required improvement (65.10, 56.77, 82.81 and 87.50 percent, respectively). Personal factors include the number of members living together, using of health services in the past 3 months, regularly used health care facilities, and health services that are often used, had statistically significant correlation with the quality of life of Myanmar migrant workers (p-value < 0.05). Recommendations are: migrant workers should have a better understanding with their employers in providing travelling benefits, residential improvements benefits, adjusting working hours, organizing activities for migrant workers. In the government sector, there should be a policy to support or cooperate with employers in providing various welfare benefits to migrant workers. and access to information, a Myanmar language interpreter should be hired, and documents from government public relations office should be provided in Myanmar language.