ภาวะสุขภาพของศตวรรษิกชน : กรณีศึกษาจังหวัดขอนแก่น

Abstract

การวิจัยเชิงบรรยายครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะสุขภาพของศตวรรษิกชนซึ่งเป็นผู้ที่มีอายุ 100 ปีหรือมากกว่า โดยใช้กรอบแนวคิดการประเมินผู้สูงอายุแบบองค์รวม (comprehensive geriatric assessment) กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 34 ราย ได้มาจากการสำรวจสำมะโนประชากรของประชากรที่มีอายุ 100 ปีหรือมากกว่า ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลด้านสุขภาพ การสัมภาษณ์ และการตรวจร่างกาย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 34 ราย มีอายุระหว่าง 100-108 ปี มีอายุเฉลี่ย 102 ปี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จากการประเมินสุขภาพจากการสัมภาษณ์ พบว่า ผู้สูงอายุมีประวัติอาการป่วยเฉียบพลันในเดือนที่ผ่านมา และ 1/3 มีโรคเรื้อรัง ด้านการรู้คิด พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมดมีความบกพร่องจากการประเมินด้วยแบบทดสอบ แต่สามารถสื่อสารได้อย่างเข้าใจ กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่งคิดว่าภาวะสุขภาพโดยรวมของตนเองไม่ค่อยดี แต่คิดว่ามีสุขภาพแข็งแรงกว่าคนอื่นที่อยู่ในวัยและเพศเดียวกัน และมีความผาสุกอยู่ในระดับปานกลางจนถึงระดับสูง มีความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐานและขั้นต่อเนื่องได้ ยกเว้นการเดินทางโดยใช้รถขนส่งมวลชนด้วยตนเอง จากการตรวจร่างกายพบว่ากลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่งมีค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายน้อยกว่าปกติ อัตราการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ ประมาณ 2/3 มีภาวะความดันโลหิตสูง กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมีแรงบีบมือทั้งสองข้างในระดับต่ำมาก จากผลการศึกษา ทำให้ทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับภาวะสุขภาพของศตวรรษิกชนที่บุคลากรด้านสุขภาพสามารถนำไปใช้ในการสร้างโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีอายุยืนยาวให้เหมาะสมต่อไป

This descriptive study aimed to describe the health status of centenarians, persons who were one hundred years old or older. The principle of comprehensive geriatric assessment was used as a conceptual framework. A sample of 34 older persons was recruited from a list of population census of people aged 100 years or older and living in Khonkaen Province, the northeast region of Thailand. The data were collected using questionnaires about personal and health data, interviews, and physical examination, and then, were analysed using descriptive statistics. The results revealed that the participants’ age ranged from 100 to 108 years with a mean of 102 years. From the interview, most participants were female and had acute illnesses in the past month, whereas one-third had chronic illnesses. They had some extent of cognitive impairment assessed by a cognitive test, but could still communicate understandably. Almost half of the participants thought that their overall health was not healthy, but they perceived that they had better health conditions than others at the same age and gender. Moreover, most of them reported that their well-being was at the moderate to high level; they could perform basic and extended activities of daily living, except for the use of public transportation. From the physical examination, almost half of the participants had a low body mass index. Most of them had a normal range of waist circumference, respiratory rate, and heart rate, but had high blood pressure. All participants had hand grip strength at a very low level. The results of this study about health status among centenarians could be used as fundamental information for healthcare providers to further develop the appropriate health promotion program specifically for the group of long-lived population.