การจัดการของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคหืด

Abstract

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการจัดการของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคหืด รูปแบบการวิจัย: การวิจัยเชิงพรรณนา วิธีการดําเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ดูแลเด็กโรคหืดจํานวน 287 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบสะดวก เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบการจัดการของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคหืด จํานวน 29 ข้อ ลักษณะคําตอบเป็นมาตรประมาณค่า 5 ระดับ และคําถามปลายเปิด 5 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย: ผู้ดูแลมีอายุเฉลี่ย 41.35 ปี รายได้เฉลี่ยของครอบครัว 22,031.01 บาท/เดือนประสบการณ์ในการดูแลเด็กโรคหืดเฉลี่ย 81.35 เดือน คะแนนการจัดการของผู้ดูแลอยู่ในระดับบ่อยครั้ง (X = 3.07, SD = .55) โดยมีคะแนนสูงสุดด้านการติดต่อสื่อสาร (X = 3.46, SD = .69) และต่ําสุดด้านการดูแลให้เด็กได้รับยาอย่างต่อเนื่อง (X = 2.25, SD = .98) ระดับการศึกษาของผู้ดูแลและรายได้ของครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการจัดการของผู้ดูแลในการดูแลเด็กโรคหืด (r = .173, p = .003 และ r = .169 , p = .004 ตามลําดับ)ประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของผู้ดูแลเด็กโรคหืดนําเสนอใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) การดูแลให้เด็กได้รับยาอย่างต่อเนื่อง 2) การจัดการสิ่งแวดล้อม 3) การประเมินและการจัดการเมื่อเด็กมีอาการหอบและ 4) การติดต่อสื่อสาร ปัญหาการดูแลที่พบมากที่สุด คือ การจัดการสิ่งแวดล้อม(ร้อยละ 69.92)รองลงมา คือ การดูแลให้เด็กได้รับยาอย่างต่อเนื่อง (ร้อยละ 28.57) สรุปและข้อเสนอแนะ: พยาบาลควรประเมินความรู้และพฤติกรรมของผู้ดูแลในการจัดการดูแลเด็กโรคหืดโดยคํานึงถึงปัญหาและอุปสรรคของผู้ดูแลและครอบครัว เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการส่งเสริมการจัดการดูแลเด็กโรคหืดของผู้ดูแล เพื่อให้การดูแลเด็กโรคหืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Purpose: To examine caregivers’ management for children with asthma.Design: Descriptive study.Methods: A sample of 287 caregivers of children with asthma was recruited by convenience sampling. Data were collected using the Caregiver Management Questionnaire containing 29 items with 5-point rating scale and 5 open-ended questions; and were analyzed using Pearson’s product moment correlation coefficient and content analysis. Main findings: The results revealed that the mean age of caregivers was 41.35 years, family income was 22,031.01 bath/month. Average months of experience in care for children with asthma was 81.35 months. Caregivers often performed asthma management for their children (X = 3.07, SD = .55) with the highest score found in the communication subscale (X = 3.46, SD = .69), and the lowest in medication adherence subscale (X = 2.25, SD = .98). Family income and caregivers’ education were significantly related to caregivers’ management (r = .173, p = .003; and r = .169, p = .004, respectively). Caregivers’ experience about problems in care for children with asthma was presented in 4 themes as follows: 1) medication adherence, 2) environmental management, 3) asthma symptoms monitoring and attacks management, and 4) communication. The problem found most in care for the asthmatic children was environmental management (69.92%), followed by medication adherence (28.57%).Conclusion and recommendations: Nurses should examine caregivers’ knowledge, and asthma management for children. In addition, nurses should explore problems and barriers to asthma management of caregivers and families members, which will be used as essential information for promoting asthma management interventions to caregivers and family members.