การเปรียบเทียบผลคะแนนของแบบทดสอบการวาดรูปนาฬิกา (CDT-MIA) ในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม

Abstract

วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลคะแนนของแบบทดสอบการวาดรูปนาฬิกา (CDT-MIA) ในผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมและผู้สูงอายุปกติและเปรียบเทียบคะแนนในแต่ละส่วนของ (CDT-MIA) ในผู้ป่วยที่มีสภาวะสมองเสื่อมกับด้านปัจจัยส่วนบุคคล วิธีการศึกษา: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลแบบย้อนหลัง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าปกติและมีภาวะสมองเสื่อมที่ได้รับการทำแบบทดสอบการวาดรูปนาฬิกาจำนวน 374 ราย ผลการศึกษา: พบว่าร้อยละ 50 เป็นภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ ผลคะแนนของแบบทดสอบการวาดรูปนาฬิกา CDT-MIA ในผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือด และผู้สูงอายุปกติ ทำคะแนนด้านตัวเลข มือ และศูนย์กลางแตกต่างกัน ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ที่มีเพศ การศึกษา และอาชีพ แตกต่างกัน ทำคะแนนด้านตัวเลข มือ ศูนย์กลาง และคะแนนรวมแตกต่างกัน ส่วนผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมองที่มีเพศต่างกัน มีผลคะแนนของการทดสอบวาดรูปนาฬิกา CDT-MIA ในด้านมือแตกต่างกัน ด้านอายุที่ต่างกันมีผลคะแนน CDT-MIA ในด้านตัวเลข มือ ศูนย์กลางและคะแนนรวมแตกต่างกัน และด้านการศึกษาต่างกันมีผลคะแนน CDT-MIA ในด้านตัวเลข มือ และคะแนนรวมแตกต่างกัน สรุป: ผลคะแนนของแบบทดสอบการวาดรูปนาฬิกา CDT-MIA กลุ่มผู้ป่วยจากภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์และโรคหลอดเลือดสมองทำคะแนนเฉลี่ยได้ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ และผู้สูงอายุปกติทำคะแนนได้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

Objective: The researcher compares the scores of selected senile dementia subjects and normal elderly subjects on the Clock Drawing Test-Modified and Integrated Approach (CDT-MIA). In addition, the researcher compares the scores of these senile dementia and normal elderly subjects on each section of the CDT-MIA by reference to demographical factors. Metods: In this retrospective research, the researcher studied data from past records from members of a sample population consisiting of 374 elderly subjects. These elderly subjects had been diagnosed by physicians as having senile dementia, or had been judged normal on the basis of clock drawing tests. Results: Half of the subjects as a consequence of Alzheimer's disease (50%), the scores on the CDT-MIA tests for thoes who were suffering from Alzheimer's disease and vascular disease and those who were judged normal differed in regard to numbers and hands scores and center. The subjects suffering from Alzheimer's disease who differed in the demographical characteristics of gender, educational level and occupation were found to exhibit parallel differences in regard to the aspects of numbers, hands, center and total scores. the subjects suffering from vascular disease who differed in the demographical factor of gender correspondingly differed in CDT-MIA scores in the aspect of hands. Furthermore, differences in the demographical factor of age corresponded to CDT-MIA score differences in the aspects of numbers, hands, center and total scores. Finally, differences in the demographical factor of educational level matched concomitant differences in CDT-MIA scores in the aspects of numbers, hands and total scores. Conclusion: In addition, the researcher determined that the CDT-MIA score of those with Alzheimer's disease and vascular disease were lower than the normal range. However, the normal elderly subjects had scores that fell within the normal range.