Publication: The exploration of financial impacts among three stakeholders during the 2016 Foot-and-Mouth Disease Outbreak in a Dairy Cooperative, Chiang Mai province, Thailand
Issued Date
2019
Resource Type
Language
eng
Rights
Mahidol University
Rights Holder(s)
Faculty of Veterinary Science Mahidol University
Bibliographic Citation
Journal of Applied Animal Science. Vol.12, No.3 (Sep- Dec 2019), 31-40
Suggested Citation
Wilasinee Jongthanachote, Manthita Poontrakulkeat, Kwankla Mungthisarn, Anuwat Wiratsudakul, Sineenard Jiemtaweeboon, วิลาสินี จงธนโชติ, มัณฑิตา พูนตระกูลเกียรติ, ขวัญกล้า มังธิสาร, อนุวัตน์ วิรัชสุดากุล, สินีนาถ เจียมทวีบุญ The exploration of financial impacts among three stakeholders during the 2016 Foot-and-Mouth Disease Outbreak in a Dairy Cooperative, Chiang Mai province, Thailand. Journal of Applied Animal Science. Vol.12, No.3 (Sep- Dec 2019), 31-40. Retrieved from: https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/60638
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Thesis
Title
The exploration of financial impacts among three stakeholders during the 2016 Foot-and-Mouth Disease Outbreak in a Dairy Cooperative, Chiang Mai province, Thailand
Alternative Title(s)
การสำรวจผลกระทบทางเศรษฐกิจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในปี พ.ศ. 2559 ณ สหกรณ์ โคนมในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
Abstract
Foot-and-mouth disease (FMD) leads to a huge impact to dairy farmers as milk selling is not allowed
during the outbreak. This study thus aimed to estimate the economic impact of FMD outbreaks in a dairy
cooperative located in Chiang Mai province, Thailand. We explored economic losses in three different categories
including farmers, dairy cooperative and governmental authority. A multiple linear regression model was
employed to identify the key factors that contribute to the financial impacts. Our results reveal that farmer
losses were resulted from milk selling prohibition, treatment service and their supplies. The loss per cow was
approximated at 33.9 USD resulting in the total loss of 31,120.25 USD. During the outbreaks, the cooperative
spent some expenses on farmer compensation, overtime wages, laboratory testing, together with the loss due to
raw milk reduction and decline on selling goods. The impact on this sector was around 3,725.44 USD. At the
provincial DLD office, veterinary authority needed to set up animal checkpoints during the outbreak and carried
out laboratory testing for suspected samples. The cost of these control measures was 2,466.58 USD. In total, the
financial impact of the 2016 FMD outbreak in this certain cooperative was estimated at 37,312.27 USD.
According to our model, the key parameters that can predict the economic impact were milk income, fuel cost and
feed cost (R2
= 0.88). We anticipate that our model may help to raise awareness on these economic impacts and
manage the identified factors during the course of the outbreaks.
การระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรงต่อเกษตรผู้เลี้ยงโคนมจากการงดส่งนมในช่วงของการระบาด เป้าหมายของการศึกษาครั้งนี้ คือ การประเมินค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ จากการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในพื้นที่สหกรณ์โคนมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้วิจัยได้แบ่งผู้ได้รับผลกระทบเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สหกรณ์โคนม และภาครัฐบาล ที่เกี่ยวข้อง และใช้แบบจำลองการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ( (multiple linear regression) เพื่อระบุปัจจัยหลักที่มีส่วนทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ผลของการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ความสูญเสียในภาคเกษตรนั้นเกิดจากการงดส่งนม และค่าใช้จ่าย ในการรักษาโครวมถึงเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าความเสียหายต่อตัวโคนั้นคิดเป็น 33.9 ดอลลาร์สหัฐ มูลค่าความเสียหายรวมในส่วนของเกษตรกรคิดเป็น 31,120.25 ดอลลาร์สหัฐ ในส่วนของสหกรณ์โคนม ความสูญเสียเกิดจากการจ่ายค่าชดเชยให้แก่เกษตรที่เป็นสมาชิก ค่าจ้างล่วงเวลาให้แก่พนักงาน และค่าใช้จ่ายในการตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมไปถึงปริมาณการขายน้ำนมดิบและสินค้าที่ลดลง ซึ่งประเมินความเสียหายได้ทั้งสิ้น 3,725.44 ดอลลาร์สหัฐ และในส่วนของภาครัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหมายถึงหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ในพื้นที่นั้น มีการจัดตั้งจุดตรวจและควบคุมโรคระบาดและส่งตรวจตัวอย่างทางห้องปฏิบัติการซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่าย 2, 466.58 ดอลลาร์สหัฐ จึงสามารถสรุปผลเป็นมูลค่าความเสียหายจากผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมกได้ทั้งสิ้น 37,312.27 ดอลลาร์สหัฐ จากแบบจำลองพบว่าปัจจัยที่สามารถนำมาคาดการณ์ความสูยเสียในภาคเกษตรได้ คือ รายได้จากการขายนม ค่าน้ำมัน และค่าอาหารสัตว์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจอยู่ที่ 0.88 (R = 0.88) คณะผู้วิจัยคาดหวังว่าแบบจำลองที่แสดงให้เห็น มูลค่าความเสียหายทั้งมดนี้ จะสามารถสร้างความตระหนักให้เห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และสามารถนำไปใช้วางแผน การจัดการกับปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบในช่วงของการระบาด
การระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรงต่อเกษตรผู้เลี้ยงโคนมจากการงดส่งนมในช่วงของการระบาด เป้าหมายของการศึกษาครั้งนี้ คือ การประเมินค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ จากการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในพื้นที่สหกรณ์โคนมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้วิจัยได้แบ่งผู้ได้รับผลกระทบเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สหกรณ์โคนม และภาครัฐบาล ที่เกี่ยวข้อง และใช้แบบจำลองการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ( (multiple linear regression) เพื่อระบุปัจจัยหลักที่มีส่วนทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ผลของการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ความสูญเสียในภาคเกษตรนั้นเกิดจากการงดส่งนม และค่าใช้จ่าย ในการรักษาโครวมถึงเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าความเสียหายต่อตัวโคนั้นคิดเป็น 33.9 ดอลลาร์สหัฐ มูลค่าความเสียหายรวมในส่วนของเกษตรกรคิดเป็น 31,120.25 ดอลลาร์สหัฐ ในส่วนของสหกรณ์โคนม ความสูญเสียเกิดจากการจ่ายค่าชดเชยให้แก่เกษตรที่เป็นสมาชิก ค่าจ้างล่วงเวลาให้แก่พนักงาน และค่าใช้จ่ายในการตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมไปถึงปริมาณการขายน้ำนมดิบและสินค้าที่ลดลง ซึ่งประเมินความเสียหายได้ทั้งสิ้น 3,725.44 ดอลลาร์สหัฐ และในส่วนของภาครัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหมายถึงหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ในพื้นที่นั้น มีการจัดตั้งจุดตรวจและควบคุมโรคระบาดและส่งตรวจตัวอย่างทางห้องปฏิบัติการซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่าย 2, 466.58 ดอลลาร์สหัฐ จึงสามารถสรุปผลเป็นมูลค่าความเสียหายจากผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมกได้ทั้งสิ้น 37,312.27 ดอลลาร์สหัฐ จากแบบจำลองพบว่าปัจจัยที่สามารถนำมาคาดการณ์ความสูยเสียในภาคเกษตรได้ คือ รายได้จากการขายนม ค่าน้ำมัน และค่าอาหารสัตว์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจอยู่ที่ 0.88 (R = 0.88) คณะผู้วิจัยคาดหวังว่าแบบจำลองที่แสดงให้เห็น มูลค่าความเสียหายทั้งมดนี้ จะสามารถสร้างความตระหนักให้เห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และสามารถนำไปใช้วางแผน การจัดการกับปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบในช่วงของการระบาด