ผลการฝึกเดินบนสายพานต่อสมรรถภาพการเดินและการทรงตัวในผู้สูงอายุ

Abstract

วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของการฝึกเดินบนสายพาน ต่อสมรรถภาพการเดินและการทรงตัวในผู้สูงอายุไทย รูปแบบการวิจัย: งานวิจัยแบบทดลอง (Experimental research) แบบ pretest-posttest one group design สถานที่ทำวิจัย: ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กลุ่มประชากร: อาสาสมัครที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ที่สามารถเข้าร่วมการวิจัยครบตามโปรแกรม วิธีการศึกษา: ผู้เข้าร่วมวิจัยฝึกเดินบนสายพานด้วยความเร็วที่สามารถเดินได้สบาย 30 นาทีต่อ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ รวม 4 สัปดาห์ ทำการทดสอบความสามารถในการทรงตัวขณะอยู่นิ่งตามแบบทดสอบ Single-Leg Stance Test with Eyes Open and Close (SLST-EO and SLST-EC) การทรงตัวขณะเคลื่อนไหวตามแบบทดสอบ Expanded Timed Up and Go (ETUG) และความเร็วขณะเดินบนพื้นราบ โดยเก็บข้อมูลเมื่อ ก่อน และ หลังจากฝึกเดินบนสายพานครบตามโปรแกรม ผลการศึกษา: มีผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวนทั้งหมด 24 ราย อายุเฉลี่ย (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) คือ 65 (4.4) ปี พบว่าค่า SLST-EO ขาขวา, ขาซ้าย มีค่ามัธยฐาน (interquartile range, IQR) ก่อนฝึกเท่ากับ 20.70 (15.60 - 63.00), 20.36 (10.80 - 67.27) และหลังฝึกเท่ากับ 38.00 (20.17 - 74.19), 26.52 (14.61 - 72.39) วินาที ตามลำดับ ค่า SLST-EC ขาขวา, ขาซ้าย มีค่ามัธยฐาน (IQR) ก่อนฝึกเท่ากับ 4.20 (3.42 - 9.29), 4.00 (2.89 - 7.91) และหลังฝึกเท่ากับ 6.85 (2.70 - 13.62), 4.96 (3.91 - 12.59) วินาที ตามลำดับ ส่วนค่า ETUG, ความเร็วในการเดินบนพื้นราบ มีค่าเฉลี่ย (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ก่อนฝึก 22.37 (3.15) วินาที, 1.08 (0.15) เมตรต่อวินาที และหลังฝึก 20.54 (2.12) วินาที, 1.14 (0.15) เมตรต่อวินาที ตามลำดับ โดยค่าตัวแปรทุกค่าภายหลังการฝึกเดินบนสายพานครบตามโปรแกรมดีขึ้นกว่าก่อนฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.05) สรุป: การฝึกเดินบนสายพาน 30 นาที 2 ครั้งต่อสัปดาห์ รวม 4 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มทั้งความสามารถในการทรงตัวในขณะที่ร่างกายอยู่นิ่งและขณะมีการเคลื่อนไหว (Static and dynamic balance) และช่วยเพิ่มสมรรถภาพการเดินในกลุ่มผู้สูงอายุไทยได้

Objectives: To evaluate the effect of a 4-week treadmill walking on balance and gait performance in Thai elderly. Study Design: Experimental research, pretest-posttest one group design Setting: Rehabilitation Medicine Department, Faculty of medicine Ramathibodi Hospital Subjects: Thai elderly aged 60 or older and volunteered to participate in the study Methods: A 30-minute treadmill walking at each individual comfortable speed was set as 2 times per week for 4 weeks. At baseline and 4 weeks, participants were tested in their static balance by Single-Leg Stance Test with eyes open and close (SLST-EO and SLST-EC), dynamic balance by Expanded Timed Up and Go Test (ETUG) and gait velocity were measured. Results: Twenty-four elderly with mean age (standard deviation) of 65 (4.4) were recruited. The SLST-EO [median(interquartile range, IQR)] of right, left leg for pre and post training were [20.70 (15.60-63.00)], [20.36 (10.80-67.27)] and [38.00 (20.17-74.19)], [26.52 (14.61-72.39)] sec, respectively. The SLST-EC [median (interquartile range, IQR)] of right, left leg for pre and post training were [4.20 (3.42-9.29)], [4.00 (2.89-7.91)] and [6.85 (2.70-13.62)], [4.96 (3.91-12.59)] sec, respectively. ETUG, gait velocity [mean(standard deviation)] of pre training were [22.37 (3.15)] sec, [1.08 (0.15)] m/s and post training were [20.54 (2.12)] sec, [1.14 (0.15) ]m/s, respectively. All parameters in post training were statistically improved. (P < 0.05) Conclusion: A 4 week, twice weekly, treadmill walking training is able to improved balance, both dynamic and static, and gait velocity in Thai elderly.