Nutritional values and stability of goat milk tablets

Abstract

การวิจัยนี้เป็นการศึกษาถึงผลของภาชนะบรรจุที่ใช้บรรจุนมแพะอัดเม็ดต่อปริมาณสาร ประกอบหลัก วิตามินที่ละลายในไขมัน (เอ, อี) และวิตามินที่ละลายในน้ำ (กรดโฟลิค, บีหนึ่ง) นมแพะ อัดเม็ดได้จากการทำนมแพะพาสเจอไรซ์ให้เป็นผงด้วยเครื่อง Spray dryer และทำให้เป็นเม็ดด้วยวิธี wet granulation นมแพะอัดเม็ดที่ได้นำมาบรรจุในขวดพลาสติกและถุงอลูมิเนียมลามิเนท ก่อนที่จะนำไปเก็บ ที่สภาวะอุณหภูมิห้องและที่สภาวะเร่ง (45 องศาเซลเซียส ความชื้นสูง) และตรวจปริมาณสารประกอบ หลักในนมแพะอัดเม็ด ได้แก่ ไขมัน โปรตีน แลคโตส และธาตุน้ำนมไม่รวมมันเนย โดยใช้เครื่อง MilkoScan การวิเคราะห์ปริมาณวิตามิน เอ อี วิตามินบีหนึ่งและกรดโฟลิค ใช้วิธีไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ ลิควิดโครมาโทกราฟี ปริมาณเริ่มต้นของวิตามิน เอ อี กรดโฟลิคและบีหนึ่งเท่ากับ 0.0780, 0.1000, 0.0499, และ 0.0779 ไมโครกรัมต่อกรัมตามลำดับ หลังการเก็บเป็นเวลา 90 วันทั้งในสภาวะอุณหภูมิห้อง และที่สภาวะเร่ง ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของสารประกอบหลักของนมแพะอัดเม็ดที่เก็บในภาชนะบรรจุทั้ง สองชนิด สำหรับปริมาณวิตามินอี กรดโฟลิค และวิตามินบีหนึ่ง ไม่พบการเปลี่ยนแปลงหลังการเก็บเป็น เวลา 90 วันที่สภาวะอุณหภูมิห้อง ในขณะที่ปริมาณวิตามินเอลดลงจากเดิมเล็กน้อยซึ่งไม่พบการ เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในทั้งขวดพลาสติกและถุงอลูมิเนียมลามิเนท ที่สภาวะเร่งปริมาณวิตามินเอ ลดลงจากเดิมร้อยละ 22.34 และ 10.00 ส่วนปริมาณวิตามินอีลดลงจากเดิมร้อยละ 12.15 และ 4.22 ในขวด พลาสติกและถุงอลูมิเนียมลามิเนท ตามลำดับ ปริมาณกรดโฟลิคลดลงจากเดิมร้อยละ 74.89 และ 51.98 ในขณะที่ปริมาณวิตามินบีหนึ่งลดลงจากเดิมร้อยละ 57.54 และ 41.33 ในขวดพลาสติกและถุงอลูมิเนียม ลามิเนท ตามลำดับ จากการศึกษาผลของนมแพะอัดเม็ดที่บรรจุในขวดพลาสติกและถุงอลูมิเนียมลามิเนท ต่อการเปลี่ยนแปลงของสารอาหารในนมแพะอัดเม็ดพบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P > 0.05)