พฤติกรรมการดูแลเอื้ออาทรของพยาบาลตามการรับรู้ของมารดาข้ามชาติพม่า

Abstract

การศึกษานี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์เชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแล เอื้ออาทรของพยาบาลตามการรับรู้ของมารดาข้ามชาติพม่า และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ชาติพันธุ์ จำนวนปีการศึกษา และความสามารถในการสื่อสารภาษาไทย กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาข้ามชาติพม่าที่อยู่ดูแลบุตรป่วยในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 60 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบสะดวกตามคุณสมบัติที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ชุด ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนบุคคลและแบบสัมภาษณ์การรับรู้พฤติกรรมการดูแลเอื้ออาทรของพยาบาล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่ามัธยฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสเปียร์แมน และการทดสอบครูสคัลวัลลิส ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า พฤติกรรมการดูแลเอื้ออาทรของพยาบาลที่มารดาข้ามชาติพม่าได้รับมาก ส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมด้านการสร้างค่านิยมเห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นและมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ส่วนพฤติกรรมการดูแลเอื้ออาทรของพยาบาลที่ได้รับน้อย ส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมด้านการสนับสนุน ปกป้องและ แก้ไขสิ่งแวดล้อม ทางด้านกายภาพ จิตสังคม และจิตวิญญาณ ซึ่งต้องใช้การสื่อสารค่อนข้างมาก การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรพบว่า ชาติพันธุ์ จำนวนปีการศึกษา และความสามารถในการสื่อสารภาษาไทยไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลเอื้ออาทรของพยาบาลตามการรับรู้ของมารดาข้ามชาติพม่าที่ระดับนัยสำคัญ ทางสถิติ .05 ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้พยาบาลที่ต้องปฏิบัติงานกับกลุ่มมารดาข้ามชาติพม่าได้เรียนรู้ภาษาพม่าที่จำเป็นในการสื่อสาร และพัฒนาสื่อการสอนตลอดจนการประชาสัมพันธ์ด้วยภาษาพม่า ตลอดจนมีการพัฒนาแนวปฏิบัติการดูแลเอื้ออาทรสำหรับมารดาข้ามชาติพม่า

This was a descriptive correlational study aimed to examine the nurses' behaviors as perceived by Burmese migrant mothers based on and the factors related to their ethnicity, length of education and ability to communicate in Thai. The sample consisted of 60 Burmese migrant mothers whose children were attending clinic a pediatric ward in Thammasat University Hospital recruited through the convenience sampling method. Subjects were interviewed using general information and the Perception on Nurses' Caring Behaviors Interview Form. Data were analyzed using descriptive statistics including frequencies, percentages, means, standard deviation, and the median. Inferential statistics used were Spearman rank correlation coefficient and Kruskal-Wallis methods. Results revealed that the mothers received care based on the formation of humanistic-altruistic system of values. The caring behaviors the mothers received were least about the provision for a supportive, protective and/or corrective mental, physical, sociocultural and spiritual environment. It was noted that these caring behaviors need of the nurses' ability in communicating through Myanmaese language. Furthermore, there were no relationships of ethnicity, length of education, ability to communicate in Thai and the perception of Burmese migrant mothers toward the nurses' caring behaviors. (p > .05). The research findings suggest of that nurses who work routinely with the Burmese migrant mothers should be equipped with the capability to communicate in Myanmaese language, as well as making the teaching media and all announcement in Myanmaese language. Furthermore, a clinical nursing practice guideline for Burmese migrant mothers should be developed.