ทักษะการใช้ขาเทียมที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของคนพิการสูญเสียขาในจังหวัดลำพูน

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) ระดับทักษะการใช้ขาเทียมและระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการสูญเสียขา 2) ความแตกต่างของทักษะการใช้ขาเทียมเมื่อจำแนกตามสาเหตุการสูญเสียขาและระดับการสูญเสียขา 3) ความแตกต่างของคุณภาพชีวิตเมื่อจำแนกตามสาเหตุการสูญเสียขาและระดับการสูญเสียขา และ 4) ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะการใช้ขาเทียมกับคุณภาพชีวิตของคนพิการสูญเสียขาในจังหวัดลำพูน ประชากรในงานวิจัย เป็นคนพิการสูญเสียขาอายุ 18 ปีขึ้นไป ในจังหวัดลำพูน เลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มแบบแบ่งประเภท เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 82 คน โดยใช้แบบสอบถามที่พัฒนามาจาก Locomotor Capabilities Index-5 และแบบวัดคุณภาพชีวิตฉบับย่อขององค์การอนามัยโลกฉบับภาษาไทย ผ่านการหาค่าความตรงจากผู้เชี่ยวชาญ และความเชื่อมั่นจากคนพิการที่ถูกคัดออก วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที และสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน งานวิจัยนี้ได้รับการรับรองจริยธรรมการวิจัยในคน (สาขาสังคมศาสตร์) มหาวิทยาลัยมหิดล ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีทักษะการใช้ขาเทียมระดับสูงและมีคุณภาพชีวิตระดับปานกลาง 2) ทักษะการใช้ขาเทียมโดยรวมจำแนกตามสาเหตุการสูญเสียขาแตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ .05 แต่ทักษะการใช้ขาเทียมโดยรวมจำแนกตามระดับการสูญเสียขาไม่แตกต่างกัน 3) คุณภาพชีวิตโดยรวมจำแนกตามสาเหตุการสูญเสียขาและระดับการสูญเสียขาไม่แตกต่างกัน 4) ทักษะการใช้ขาเทียมโดยรวม มีความสัมพันธ์ต่ำทางบวกกับคุณภาพชีวิตโดยรวม (r = .377, p < .01) มีความสัมพันธ์ปานกลางทางบวกกับคุณภาพชีวิตด้านร่างกาย (r = .573, p < .01) มีความสัมพันธ์ต่ำทางบวกกับคุณภาพชีวิตด้านจิตใจ (r = .337, p < .01) แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตด้านความสัมพันธ์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อม

This research aims to know 1) the level of locomotor skills and quality of life of people with lower limb amputations, 2) the difference in locomotor skills classified by amputation causes and levels, 3) the difference in quality of life classified by amputation causes and levels, and 4) the relationship between locomotor skills and quality of life of lower limb amputations in Lamphun, The research population was people with lower limb amputation who are older than 18 years and living in Lamphun. The samples were selected by Stratified Random Sampling. Collected data from a sample of 82 people by using questionnaire developed by Locomotor Capabilities Index-5 and the World Health Organization's WHOQOL-Bref-Thai quality of life version. Validity was examined by experts and a Reliability test was obtained from the 30 responded, by exclusion criteria. Data were analyzed by frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test, and Pearson productmoment correlation. This research was approved by the research ethics committee of Office of The Committee for Research Ethics (Social Sciences), Mahidol University. Results of this research showed that 1) the samples had high locomotor skills and a moderate quality of life 2) overall locomotor skills classified by amputation causes were different at the significant level (.05) but there was no difference in overall locomotor skills classified by amputation levels 3) overall quality of life classified by amputation causes and levels was not different 4) overall locomotor skills had a low positive relationship with the overall quality of life (r = .377, p < .01), a moderately positive relationship with the physical domain (r = .537, p < .01), and a low positive relationship with the psychological domain (r = .377, p < .01) but the overall locomotor skills had no relationship with social relationships and the environmental domain.