ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กก่อนวัยเรียน ชุมชนดินแดง กรุงเทพมหานคร
Issued Date
2534
Resource Type
Language
tha
Rights
มหาวิทยาลัยมหิดล
Suggested Citation
พิพัฒน์ ลักษมีจรัลกุล, ลีรา กิตติกูล, ปรางค์ทอง มณีศร, วชิระ สิงหะคเชนทร์ (2534). ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กก่อนวัยเรียน ชุมชนดินแดง กรุงเทพมหานคร. สืบค้นจาก: https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/63547
Title
ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กก่อนวัยเรียน ชุมชนดินแดง กรุงเทพมหานคร
Abstract
การศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ได้ทำในเด็กก่อนวัยเรียน จำนวน 165 ราย อายุ 6-14 ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี มาก่อน และผู้ปกครองท่าอาศัยในอาคารสงเคราะห์การเคหะแห่งชาติ ชุมชนดินแดง กรุงเทพมหานคร ระวห่างเดือน มกราคม ถึงพฤษภาคม 2534 เด็กและผู้ปกครองจะได้รับการสัมภาษณ์โดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจมีผลต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี เด็กทุกรายได้รับการเจาะเลือดเพื่อตรวจหา HBsAg, Anti-HBs และ Anti-HBc โดยใช้วิธี EIA ของบริษัท Roche จากผลการตรวจเลือด สามารถแบ่งเด็กแกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มศึกษา คือ เด็กที่ให้ผลเลือดบวกกับ HBV seromarkers ตัวใดตัวหนึ่งหรือหลายตัว จำนวน 41 ราย และกลุ่มเปรียบเทียบ คือ เด็กที่ให้ผลเลือดลบกับ HBV seromarkers จำนวน 124 ราย เปรียบเทียบและวิเคราะห์ตัวแปรทั้ง 2 กลุ่ม โดยใช้ Odds Ratio (OR) และ x2-test
จากการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ได้แก่ (1)ปัจจัยเกี่ยวกับเด็ก : อายุเด็ก (OR =2.84, P = 0.004) เพศเด็ก (OR = 2.64,P = 0.012)การเจาะหูในเพศหญิง (OR = 8.48, P = 0.020) การใช้ใบมีดโกนร่วมกันในการกันหรือโกนผม (OR = 12.32, P = 0.001) การสัมผัสเลือดจากบาดแผลผู้อื่น (OR = 2.36, P = 0.031) การใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น (OR = 2.40, P = 0.017) การคุ้ยหาของในกองขยะ (OR = 3.10, P = 0.003) (2) ปัจจัยเกี่ยวกับครอบครัว : การศึกษาของผู้ปกครอง (OR = 5.19, P = 0.017) รายได้ของครอบครัวต่อเดือน (OR = 2.53, P = 0.015) อายุของผู้ปกครอง (OR = 5.83, ถึง 7.06, P = 0.1357, 0.014) และ (3) ปัจจัยเกี่ยวกับสังคมวิทยา : ความรู้เกี่ยวกับโรคและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอีกเสบ บี ของผู้ปกครอง (ไม่มีความรู้ OR = 4.60, P = 0.007) ความรู้ระดับต่ำ (OR = 3.24 P = 0.023) และเจตคติเกี่ยวกับโรค และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี ของผู้ปกครอง (OR = 3.36 P = 0.047)
นอกจากนี้ผู้วิจัยยังได้ติดตามเจาะเลือดผู้ปกครองของเด็กที่เป็นพาหะ จำนวน 4 ราย พบว่ามารดา 2 ราย เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบ บี อีก 2 รายไม่เป็นพาหะ อาจกล่าวได้ว่า เด็ก 2 รายที่มีมารดาเป็นพาหะ อาจจะติดเชื้อจากการแพร่เชื้อตามแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ แต่เด็กอีก 2 ราย ที่มีมารดาไม่เป็นพาหะน่าจะติดเชื้อจากการแพร่เชื้อตามแนวนอน การติดต่อของโรคไวรัสตับอักเสบ บี ตามแนวนอนอาจเป็นการติดต่อที่สำคัญของโรคในเด็กวัยเรียนของชุมชนนี้
Description
เอกสารประกอบการประชุม การประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 5 คุณภาพชีวิตไทยที่พึงปรารถนา: แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน, วันที่ 18-20 ธันวาคม 2534 ณ โรงแรมเอเซีย กรุงเทพฯ. กรุงเทพฯ: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2534. หน้า 253-4.