ภาวะผู้นำของผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก

Abstract

การวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักกีฬาที่มีต่อภาวะผู้นำของผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก (2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักกีฬาที่มีต่อภาวะผู้นำของผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างคือ นักกีฬาสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก จำนวน 399 คน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยมีเครื่องมือในการวิจัยคือ แบบสอบถาม ผู้วิจัยเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากนักกีฬาสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก สถิติที่ใช้วิเคราะห์ผลข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ (One-way Anova) ผลการวิจัยพบว่า นักกีฬาส่วนใหญ่ มีอายุ 28-32 ปี เป็นนักเรียน/นักศึกษา ศึกษาในระดับปริญญาตรีมีรายได้มากกว่า 100,000 บาท และเป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นของนักกีฬาในภาพรวม ประเภทภาวะผู้นำแบบอัตตาธิปไตย ประเภทภาวะผู้นำแบบประชาธิปไตยโดยรวมอยู่ในระดับมาก ประเภทภาวะผู้นำแบบเสรีนิยมโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ผลการทดสอบรายด้าน อายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 รายได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ประสบการณ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้พบว่า การกีฬาแห่งประเทศไทยควรมีการกำหนดนโยบายและแผนงานการพัฒนาศักยภาพการเป็นผู้นำให้กับผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ควรมีการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาภาวะผู้นำให้กับผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ควรจัดฝึกอบรมเรื่องการพัฒนาภาวะผู้นำสโมสรฟุตบอลในระดับไทยลีกต่างๆ ได้แก่ ไทยลีก2 ไทยลีก3 และไทยลีก4 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ควรมีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกในทุกระดับ ผู้บริหารสโมสรควรใช้ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ในการบริหารจัดการ และพัฒนาการดำเนินงานของสโมสรฟุตบอล ผู้บริหารสโมสรควรสร้างการรับรู้เรื่องภาวะผู้นำให้กับบุคลากรและนักกีฬาของสโมสร

The purpose of this research was 1) to study the opinion of football players on the behavioral leadership of Thai Premier League Football Club Executives and, 2) to compare opinions of football players by personal factors on the behavioral leadership of the Thai Premier League club Executives. The sample was 399 Thai Premier League football players. This was quantitative research which used a questionnaire as a research instrument to collect data. The research found that most of the football players who responded were 28-32 years old with Bachelor's Degree and earned more than 100,000 baht, per month and they have more than 10 years' experience playing football. The results of the analysis of the football players' opinion were as: Type of leadership such as Autocratic leadership, and Democratic leadership styles are at a high level, liberal leadership is at a moderate level. The statistical results found that the age differences of the football players was significantly higher at the 0.05 significance level, as compared to the level of education of the football players