ความตั้งใจลาออกของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข

Abstract

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงอรรถาธิบาย (Explanatory Research) แบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตการทางานและความยึดมั่นผูกพันในวิชาชีพที่มีผลต่อความตั้งใจลาออกของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มตัวอย่างคือพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข สุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบ่งเป็น 4 ส่วน แบบสอบถามที่ใช้วิเคราะห์จานวน 395 ชุด คิดเป็นร้อยละ 79.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และสถิติการวิเคราะห์ถดถอยพหุ ผลการวิจัยตัวแปรอิสระคือความตั้งใจลาออก ตัวแปรตามคือคุณภาพชีวิตการทางานและความยึดมั่นผูกพันในวิชาชีพ พบว่าคุณภาพชีวิตการทางานและความยึดมั่นผูกพันในวิชาชีพมีความสัมพันธ์ทางลบระดับปานกลางกับความตั้งใจลาออกของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขคุณภาพชีวิตการทางานและความยึดมั่นผูกพันในวิชาชีพของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่สามารถอธิบายความผันแปรความตั้งใจลาออกของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ร้อยละ 41.4 จากผลการวิจัยครั้งนี้ ผู้บริหารทางการพยาบาลน่าจะกาหนดนโยบายสร้างแรงจูงใจการทางานของพยาบาลวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตการทางาน ความยึดมั่นผูกพันในวิชาชีพ พัฒนาแนวทางการธารงรักษาพยาบาลวิชาชีพให้คงอยู่ในวิชาชีพยาวนานมากขึ้นต่อไป

The purpose of this explanatory cross sectional study was to analyze the relationship between the quality of work life and professional commitment in relation to intentions to resign among professional nurses in regional hospitals affiliated to the Ministry of Public Health. The sample comprised 250 professional nurses. Data were collected through questionnaires. A total of 395 questionnaires (79.00%) were analyzed using Pearson's Correlation and Multiple Regression. The results showed that the quality of work life and professional commitment had a moderately negative association with intentions to resign among professional nurses in the regional hospitals affiliated to the Ministry of Public Health (r = -0.560 and -0.556 respectively , p-value ? 0.01) and both the quality of work life and the professional commitment could explain 41.4% (adjusted R2 = 0.414 , p-value < 0.001) variance in the intentions to resign among professional nurses used in this study. It was therefor recommendation to the researcher that nursing administrators should set policies and develop the quality of work life and professional commitment among registered nurses, endeavor to reduce the turnover rate and establish guidelines to make professional nurses have longer than usual commitment to their careers.