การพัฒนารูปแบบการดำเนินงานบริการผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤต

Abstract

งานบริการผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤต เป็นงานบริการที่ให้กับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะที่คุกคามต่อชีวิต ต้องให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดเหมาะสมและทันเวลาอยู่เสมอเพื่อให้ผู้ป่วยรอดชีวิตสามารถปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้ ปัญหาของการดำเนินงานที่สำคัญคือ ปัญหาด้านปริมาณงาน ด้านคุณภาพงาน ด้านเวลาและแรงงานที่ใช้ ด้านความไม่พึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องและปัญหาด้านเศรษฐศาสตร์แนวทางการแก้ปัญหาคือการพัฒนารูปแบบการดำเนินงานบริการที่ดีและเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงานเพราะรูปแบบเป็นรากฐานที่สำคัญของการดำเนินงาน หากได้รับการพัฒนาจะช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากขึ้นภายใต้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด การศึกษานี้มีจุดประสงค์เพื่อหารูปแบบการดำเนินงานบริการผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤต ตามหลักวิชาการ ในบริบททั่วไป ที่สามารถนำไปดำเนินการในพื้นที่ทั้งหลาย ให้ประสบความสำเร็จ สู่ความยั่งยืน ด้วยทรัพยากร ที่มีอยู่ และเพื่อเตรียมความพร้อม ในการนำรูปแบบการดำเนินงานที่พัฒนาขึ้นไปดำเนินการแบบการศึกษาเป็นการศึกษาเชิงพรรณนาจากแหล่งข้อมูลคือหนังสือตำรา งานวิจัย อินเทอร์เน็ตแนวปฏิบัติที่ดีและผู้เชี่ยวชาญด้านหอผู้ป่วยวิกฤต วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา และสถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการดำเนินงานบริการในหอผู้ป่วยวิกฤตที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยหลักการของรูปแบบ โครงสร้างของรูปแบบ และการนำรูปแบบไปใช้งาน โดยหลักการของรูปแบบมีทั้งหมด 29 หลักการ โครงสร้างของรูปแบบ มีโครงสร้างด้านของที่ต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 400 ตารางเมตร ห้องผู้ป่วย 8 ห้อง จัดวางผังห้องรูปเกือกม้าหรือรูปกล่อง มีระบบการจัดการด้านของอย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างด้านคน มีแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล พนักงานสนับสนุนด้านการบริการและสหสาขาวิชาชีพ ที่มีจำนวนเพียงพอเหมาะสม มีสมรรถนะสูงและมีบทบาทหน้าที่ชัดเจน จัดการดูแลเป็นแบบการดูแลรายกรณีร่วมกับรายบุคคล โครงสร้างด้านเงินมีการจัดงบประมาณที่เหมาะสม และโครงสร้างด้านระบบงาน มีผังการไหลเวียนงานบริการผู้ป่วยตามมาตรฐาน 9 กิจกรรมหลักที่เป็นลายลักษณอักษรที่ชัดเจนง่ายต่อการปฏิบัติ มุ่งเน้นกระบวนการให้บริการเพื่อความปลอดภัย มีระบบงานสนับสนุนทรัพยากรคน เงิน ของ เทคโนโลยี ให้กับงานบริการระบบงานพัฒนางานบริการและระบบงานบริหารจัดการโดยคำนึงถึงผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางการนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้น ไปใช้งาน เน้นให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน จำแนกเป็น ระยะเตรียมการ ระยะดำเนินการ ระยะประเมินผลและการพัฒนา และ ระยะก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในการเตรียมความพร้อมการนำรูปแบบการดำเนินงานที่พัฒนาขึ้น ไปดำเนินการในโรงพยาบาลกรุงเทพ ใช้การวิจัยพัฒนาเชิงทดลองแบบสองกลุ่ม ทดลอง-ควบคุม วัดผลก่อนและหลังการทดลองเพื่อให้ได้ผลการดำเนินงานที่น่าเชื่อถือเสนอให้พัฒนาเรื่องนี้ต่อไป เพื่อให้ได้รูปแบบที่ดีสามารถเป็น "ตัวแบบ" ของงานการบริการหอผู้ป่วยวิกฤตที่ดี และ มีประสิทธิภาพสูงยิ่ง ๆ ขึ้นอย่างยั่งยืนและขยายผลการพัฒนารูปแบบไปสู่หน่วยงานอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

The intensive Care Unit is a service for patients who are in a critical condition, which requires close monitoring at all times to bring the patients back to normal. The main problems of the ICU operation are work loads, quality of work, time and labor, dissatisfaction of relations, and economic problems. Solutions to these problems are in developing good and helpful working models for the operation of the unit. The working model is a vital foundation for the operation. If it is developed, it will help to create an effective and quality operation within the limited resources. The purpose of this study was to find an academic working model of the operation in the ICU ward in the general setting, which will lead to sustainable success and could be applied anywhere to put the developed working model into real action. This is a descriptive study from text books, research, good practices and ICU expertise. The data analysis used were content analysis and descriptive statistics. The result of this study indicates that the developed working model in the ICU ward consists of the principles of the model, model structure and the application of the working model into the operation. There are 29 principles in the model. The model structure prescribed 8 rooms in horseshoe or box shape, of 400 square meters in area, including effective management. Efficient and effective doctors, nurses, practical nurses, service support staff, and a multidisciplinary team are necessary in the human resources structure. The model of care also integrated case management with total patient care. Efficient budget management is necessary in the financial structure. For the working system structure, there must be easy to follow work flow according to the 9 main activities which focus on patient safety. Moreover there must be a supportive system of human resources, budget, supply, and technology for the service. Service development and the management system must be patient centred. Turning the developed system into practice should emphasize continuity and sustainable development, which could be divided into the preparation period, operating period, evaluating period, and sustainable development period. Applying the developed working model for Bangkok hospital, experimental research with a case and control group was employed. Collecting the results, before and after the experimental research created reliable results, in order to continue a sustainable and good working model, which can be expanded into other departments.