การบริหารความเสี่ยงในห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา

dc.contributor.authorนันทวรรณ จินากุลen_US
dc.contributor.authorNanthawan Jinakulen_US
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยมหิดล. คณะเภสัชศาสตร์en_US
dc.date.accessioned2021-08-11T02:48:35Z
dc.date.available2021-08-11T02:48:35Z
dc.date.created2564-08-11
dc.date.issued2561
dc.descriptionปัญญามหิดล คุณภาพคน คุณภาพงาน “Mahidol Quality Fair 2018” “Valuing People : คุณค่าคน คุณค่างาน”. ณ อาคารมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา, นครปฐม. 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561. หน้า 153-154en_US
dc.description.abstractวัตถุประสงค์ของงานเพื่อประเมินความเสี่ยงและจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงในห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาในคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลการดำเนินงานโดยทำการสำรวจความเป็นอันตรายต่างๆ ศึกษาตามแนวทางเพื่อความปลอดภัยทางชีวภาพ ศูนย์บริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม (COSHEM) มหาวิทยาลัยมหิดล สำรวจเพื่อชี้บ่งอันตรายด้วยวิธี Job Safety Analysis : JSA) โดยจะมุ่งเน้น 4 ด้าน คือ ด้านการป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ด้านโครงสร้างห้องปฏิบัติการ ด้านมาตรการป้องกันอุบัติภัย และด้านการขจัดสิ่งปนเปื้อน ประเมินความเสี่ยงด้วยวิธี checklist โดยพิจารณาถึงโอกาสและความรุนแรงในเหตุการณ์ต่างๆ โดยใช้เกณฑ์การประเมินความเสี่ยงของศูนย์บริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (COSHEM) มหาวิทยาลัยมหิดล และนำผลที่ได้มาจัดทำแผนงานบริหารจัดการความเสี่ยง ผลลัพธ์ที่ได้ จากการสำรวจเพื่อชี้บ่งอันตรายด้วยวิธี Job Safety Analysis : JSA) 4 ด้าน คือ ด้านการป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ด้านโครงสร้างห้องปฏิบัติการ ด้านมาตรการป้องกันอุบัติภัย และด้านการขจัดสิ่งปนเปื้อน นำผลการสำรวจทั้ง 4 ด้านที่ได้มาประเมินความเสี่ยงด้วยวิธี checklist พบว่า ด้านการป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น ไม่สวมเสื้อกาวน์ ถุงมือ แว่นตา หน้ากากซึ่งเป็นความเสี่ยงระดับ 2 ดังนั้น ควรมีมาตรการการควบคุมผู้ปฏิบัติงานให้ปฏิบัติตามกฏข้อบังคับอย่างเคร่งครัดจะทำให้เกิดจะช่วยป้องกันสารเคมีและเชื้อจุลินทรีย์ก่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานได้ ด้านโครงสร้างห้องปฏิบัติการ พบว่า การควบคุมแมลงและหนูในห้องปฏิบัติการยังมีความบกพร่องบางห้องซึ่งเป็นความเสี่ยงระดับ 2 จึงมีความจำเป็นต้องควบคุมและป้องกันไม่ให้เป็นพาหะที่จะเกิดการแพร่กระจายของโรค ด้านมาตรการป้องกันอุบัติภัย ก๊าซที่มีความดันสูง เช่น CO2 ถูกใช้ในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศไม่เพียงพอเป็นความเสี่ยงระดับ 4 ที่มีอันตรายสูงมากหากเกิดอุบัติเหตุซึ่งพบว่าบางห้องปฏิบัติการมีพื้นที่จำกัด ถึงแม้ว่าจะมีโซ่คล้องป้องกันถังล้มแต่ควรจัดหาพื้นที่วางที่มีอากาศถ่ายเท หรือหยุดการใช้ หรือหามาตรการอื่นๆ ที่สามารถลดความเสี่ยงได้ ควรให้ความรู้และฝึกอบรมเรื่องก๊าซอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงาน จุดเก็บถังต้องมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีระบบป้องกันไฟ มีประตูหนีไฟ ด้านการขจัดสิ่งปนเปื้อน เช่น การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เจ้าหน้าที่ประจำสำหรับทำความสะอาด การอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ที่มาทำความสะอาด เป็นต้น เป็นความเสี่ยงระดับ 3 จึงควรมีระบบ ทำความสะอาดห้องปฏิบัติการที่เป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกันจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในการทำงาน และการขจัดสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ในการทำลายเชื้อจุลชีพen_US
dc.identifier.urihttps://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/63096
dc.language.isothaen_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยมหิดลen_US
dc.rights.holderกองพัฒนาคุณภาพ มหาวิทยาลัยมหิดลen_US
dc.subjectประเมินความเสี่ยงen_US
dc.subjectการจัดการความเสี่ยงen_US
dc.subjectความเสี่ยงในห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาen_US
dc.subjectวิธี Job Safety Analysisen_US
dc.titleการบริหารความเสี่ยงในห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาen_US
dc.typeProceeding Abstracten_US

Files

Original bundle

Now showing 1 - 1 of 1
Thumbnail Image
Name:
py-pc-nanthawa-2561.pdf
Size:
977.08 KB
Format:
Adobe Portable Document Format

License bundle

Now showing 1 - 1 of 1
No Thumbnail Available
Name:
license.txt
Size:
1.71 KB
Format:
Item-specific license agreed upon to submission
Description: