การตัดสินใจทำประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2557 ในจังหวัดสมุทรสาคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการตัดสินใจทำประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2557 ในจังหวัดสมุทรสาคร และวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะประชากร การได้รับข้อมูลข่าวสารการประกันสุขภาพ การได้รับข้อมูลสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพและการได้รับนโยบายรัฐ ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพ แรงจูงใจในการประกันสุขภาพ และความพึงพอใจในการรับบริการสาธารณสุข กับการตัดสินใจทำประกัน สุขภาพของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2557 ในจังหวัดสมุทรสาคร กลุ่มตัวอย่างคือแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 236 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Chi-square และ Fisher's Exact Test ผลการวิจัยพบว่าแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามีการตัดสินใจทำประกันสุขภาพมากที่สุด ร้อยละ 56.8 รองลงมาคือไม่แน่ใจว่าจะทำประกันสุขภาพหรือไม่ ร้อยละ 30.9 และตัดสินใจไม่ทำประกันสุขภาพ ร้อยละ 12.3 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจทำประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value < 0.05) คือ เพศ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจทำประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (p-value <0.01) ได้แก่ อายุ สถานภาพสมรส อาชีพ การได้รับข้อมูลข่าวสารการประกันสุขภาพ การได้รับข้อมูลสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพการได้รับนโยบายรัฐ และความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพ ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ คือ ควรมีการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพแก่แรงงานต่างด้าวมากขึ้นและชี้แจงวัตถุประสงค์ของการทำประกันสุขภาพ อาจขอความร่วมมือจากนายจ้างในการให้ข้อมูลแก่แรงงานต่างด้าว เพราะนายจ้างมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทำประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าว มากที่สุด

This research aims to study the decision making of Myanmar migrant workers in entering into the health insurance scheme according to ministry of public healthโ€™s Announcement on Medical Checkups and Health Insurance for Migrant Workers B.E. 2557in Samut Sakhon province and determine the correlation between demographic characteristics, the acquisition of information about health insurance, the acquisition of information about health insurance benefits, the acknowledgement of governmentโ€™s policy, knowledge about health insurance benefits, motivation for entering into the health insurance scheme, satisfaction with public health services and decision making of Myanmar migrant workers for entering into the health insurance scheme. The sample was 236 of Myanmar migrant workers. A structured interview was used to collect the data which was analyzed with percentages, means, standard deviation, Chi-square and Fisher's Exact Test The research result showed that most of them (56.8%) decided to renew their health insurance while 30.9%persons felt uncertain about whether to renew and 12.3% decided not to renew. The analysis of correlations showed that the factor that most correlated with the decision making, regarding entering into health insurance scheme at a 0.05 level of statistical significance (p-value < 0.05), was gender, other factors that correlated with the decision making regarding entering into the health insurance scheme at a 0.01 level of statistical significance (p-value < 0.01) included age, marital status, occupation, acquisition of health insurance information, acquisition of information on health benefits, acknowledgement about government policy and the knowledge about health benefits. The recommendations from the result suggested that public relations and the provision of information about health insurance should be conducted more extensively, and the objectives of health insurance should be explained to migrant workers. Cooperation may be sought from employers in providing this information to migrant workers, given that employers are most influential in the decision making of migrant workers, regarding their entry into the health insurance scheme