The development of an effective model for implementing information management strategies in higher education institutions
Issued Date
2024
Copyright Date
2018
Resource Type
Language
eng
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
x, 159 leaves : ill.
Access Rights
open access
Rights
ผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า
Rights Holder(s)
Mahidol University
Suggested Citation
Nattachai Nimnual (2024). The development of an effective model for implementing information management strategies in higher education institutions. Retrieved from: https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/123456789/91628
Title
The development of an effective model for implementing information management strategies in higher education institutions
Alternative Title(s)
การพัฒนารูปแบบที่มีประสิทธิภาพของการทำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา
Author(s)
Abstract
This research aimed to: 1) study the components of the information technology management strategies implementation in higher education institutions, and 2) develop an effective model for information management strategies implementation in higher education institutions. This research used quantitative research methodology. The data were collected from 879 participants from 25 universities under the Office of the Higher Education Commission which have good score of management assessment above 4.51 and has been ranked in the world's top 100 universities based on the site http://www.webometrics.info/en/Asia/Thailand. The gathered data were analyzed using exploratory factor analysis (EFA). The study indicated that there were 8 components of the information technology management strategies implementation in higher education institutions, which were database development and information system security, budget allocation, strategic information systems assignment and review before implementation, leadership, organizational culture, organizational capabilities, internal communication, and rewards and incentives. The result of Bartlett's Test of Sphericity included all components in accordance with Chi-Square statistical significance at the 0.05 level and the Kaiser-Meyer-Olkin Measure of Sampling Adequacy was 0.850. The result of the development an effective model for information management strategies implementation showed that causal relationship was consistent with the empirical data. The first three of causal factors which directly influenced on organizational capabilities was internal communication, strategic information systems assignment and review before implementation, and leadership. Moreover, the causal factors which had influence on organizational capabilities was strategic information systems assignment and review before implementation, leadership, and organizational culture. Therefore, higher education institutions should have a database system to store information in a secure environment; the information management strategies should be assigned to the responsible people based on their abilities and experiences, and the management team should clearly display the vision in the operation of information management system.
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา 2) เพื่อพัฒนารูปแบบที่มีประสิทธิภาพของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษาโดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ บุคลากรในมหาวิทยาลัยที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพในคะแนนการบริหารจัดการในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.51 ขึ้นไป และเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้จัดอันดับอยู่ในเว็บไซต์ http://www.webomestics.info อันดับ 1-100 มีจำนวนทั้งสิ้น 25 แห่ง ผู้ให้ข้อมูลจำนวน 879 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลองค์ประกอบเชิงสำรวจ (Exploratory Factor Analysis) ผลการศึกษาพบว่า การนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา มีทั้งหมด 8 ประกอบ ประกอบด้วย การพัฒนาฐานข้อมูลและความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ การจัดสรรงบประมาณสำหรับระบบสารสนเทศ การมอบหมายกลยุทธ์และทำการทบทวนก่อนนำไปปฏิบัติ ภาวะความเป็นผู้นำ วัฒนธรรมองค์กร ความสามารถขององค์กร การสื่อสารภายในองค์กร และการให้รางวัลและสิ่งจูงใจ ผลการทดสอบ Bartlett's Test of Sphericity รวมทุกองค์ประกอบ พบว่ามีค่าสถิติ Chi-Square มีนัยสำคัญทางสถิติ ในระดับ 0.05 และ ค่า KMO (Kaiser-Meyer-Olkin Measure of Sampling Adequacy) เท่ากับ 0.850 ส่วนความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของรูปแบบที่มีประสิทธิภาพของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุและมีอิทธิพลทางตรงต่อความสามารถขององค์กร 3 อันดับแรกได้แก่ การสื่อสารภายในองค์กร การมอบหมายกลยุทธ์และ ทบทวนการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ และภาวะความเป็นผู้นำ ส่วนองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุที่มีอิทธิพลทางอ้อมต่อความสามารถขององค์กร ได้แก่ การมอบหมายกลยุทธ์และทบทวนการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ ภาวะความเป็นผู้นำและวัฒนธรรมองค์กร และมีข้อเสนอแนะสำหรับงานวิจัยครั้งนี้คือ ผู้บริหารควรออกนโยบายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในงานด้านต่าง ๆ จัดทำระบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย เกิดความเหมาะสมกับงาน และเชื่อมโยงระหว่างแผนงานกับการปฏิบัติงานให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วเกิดประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ควรศึกษาปัญหาและ ข้อจำกัดของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อนำมาสู่การวางแผนพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา 2) เพื่อพัฒนารูปแบบที่มีประสิทธิภาพของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษาโดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ บุคลากรในมหาวิทยาลัยที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพในคะแนนการบริหารจัดการในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.51 ขึ้นไป และเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้จัดอันดับอยู่ในเว็บไซต์ http://www.webomestics.info อันดับ 1-100 มีจำนวนทั้งสิ้น 25 แห่ง ผู้ให้ข้อมูลจำนวน 879 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลองค์ประกอบเชิงสำรวจ (Exploratory Factor Analysis) ผลการศึกษาพบว่า การนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา มีทั้งหมด 8 ประกอบ ประกอบด้วย การพัฒนาฐานข้อมูลและความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ การจัดสรรงบประมาณสำหรับระบบสารสนเทศ การมอบหมายกลยุทธ์และทำการทบทวนก่อนนำไปปฏิบัติ ภาวะความเป็นผู้นำ วัฒนธรรมองค์กร ความสามารถขององค์กร การสื่อสารภายในองค์กร และการให้รางวัลและสิ่งจูงใจ ผลการทดสอบ Bartlett's Test of Sphericity รวมทุกองค์ประกอบ พบว่ามีค่าสถิติ Chi-Square มีนัยสำคัญทางสถิติ ในระดับ 0.05 และ ค่า KMO (Kaiser-Meyer-Olkin Measure of Sampling Adequacy) เท่ากับ 0.850 ส่วนความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของรูปแบบที่มีประสิทธิภาพของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุและมีอิทธิพลทางตรงต่อความสามารถขององค์กร 3 อันดับแรกได้แก่ การสื่อสารภายในองค์กร การมอบหมายกลยุทธ์และ ทบทวนการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ และภาวะความเป็นผู้นำ ส่วนองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุที่มีอิทธิพลทางอ้อมต่อความสามารถขององค์กร ได้แก่ การมอบหมายกลยุทธ์และทบทวนการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ ภาวะความเป็นผู้นำและวัฒนธรรมองค์กร และมีข้อเสนอแนะสำหรับงานวิจัยครั้งนี้คือ ผู้บริหารควรออกนโยบายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในงานด้านต่าง ๆ จัดทำระบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย เกิดความเหมาะสมกับงาน และเชื่อมโยงระหว่างแผนงานกับการปฏิบัติงานให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วเกิดประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ควรศึกษาปัญหาและ ข้อจำกัดของการนำกลยุทธ์การจัดการระบบสารสนเทศไปปฏิบัติในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อนำมาสู่การวางแผนพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Description
Public Policy and Public Management (Mahidol University 2018)
Degree Name
Doctor of Public Administration
Degree Level
Doctoral
Degree Department
Faculty of Social Sciences and Humanities
Degree Discipline
Public Policy and Public Management
Degree Grantor(s)
Mahidol University