แนวทางการพัฒนาการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทคดีอาญาในชั้นพนักงานอัยการ

Abstract

การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท คดีอาญาในชั้นพนักงานอัยการ และศึกษาปัจจัย รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนา รูปแบบที่เหมาะสมเสนอเป็นแนวทางของการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทคดีอาญาในชั้น พนักงานอัยการ โดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ โดยสัมภาษณ์เชิงลึกพนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและ ให้การช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จํานวน 18 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลหลัก ผลการศึกษาพบว่า สถานการณ์ในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทคดีอาญาในชั้น พนักงานอัยการนั้นมีทั้งที่ประสบความสําเร็จ และไม่ประสบความสําเร็จ ปัจจัยที่ทําให้ประสบความสําเร็จได้แก่ ผู้ไกล่เกลี่ย, คู่กรณี, ความเข้าใจในจารีตประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่วนปัญหา และอุปสรรคได้แก่ ระยะเวลาการส่งฟ้องของพนักงานอัยการมีจํากัด ความมีทิฐิของคู่กรณีที่พิพาทกัน บุคคลแวดล้อมของคู่กรณีแต่ละฝ่าย สําหรับแนวทางในการพัฒนาการไกล่และประนอมข้อพิพาทคดีอาญาในชั้นพนักงาน อัยการ ได้แก่ การดําเนินการต่อไปในเชิงรุก มีเครือข่ายการประนอมข้อพิพาทระดับท้องถิ่น,การ พัฒนาศักยภาพของผู้ไกล่เกลี่ย,มีการออกกฎหมายหรือระเบียบการไกล่เกลี่ยชั้นพนักงานอัยการ ส่งเสริมให้มีการตระหนักถึงความสําคัญของกระบวนการยุติธรรมทางเลือก

The objectives of this study were to study the current situation of mediation and conciliation of disputes in criminal case by the prosecutor, delineate problems and obstacles, and develop the appropriate guideline for mediation and conciliation performing. Qualitative approach was used, and data were collected through in-depth interview. Eighteen prosecutors from all regions in Thailand were selected as of the key informants. The research results had revealed as follows. The success of current situation of mediation and conciliation of disputes in criminal case by the prosecutor were different based on the different areas and others relates factors. The factors regarding the successful results derived from the skills of mediator, the criminal parties and tradition and culture of the regions. The problems and obstacles of mediation and conciliation of disputes in criminal case were a short period of time to deliver the paper case, the party's egoism and relatives. In conclusion, the developed guideline shows that there should be active program to set up the network for an alternative dispute resolution at the local community. In addition, the office of prosecutor has to develop the essential skills for mediation work more, including the application of alternative dispute resolution in the public prosecution work.