Relationship between parenting styles and psychological capital among students of a public university

Abstract

This study aimed at finding the relationship between perceived parenting styles and psychological capital in undergraduates of a public university. Four hundred and two undergraduates of one public university in academic year 2016 were drawn by using a multi-stage random sampling method. The tools used were parenting styles assessment form and Thai-Psychological Capital Inventory. The data was analyzed using basic statistical values, variance, Pearson correlation coefficient, and Stepwise multiple regression. The results revealed that undergraduates had moderately high psychological capital. Most perceived that they had been through authoritative parenting style. Psychological capital was different according to parenting style. Authoritative and permissive parenting styles had positive relationship with psychological capital, with statistical significance while authoritarian and neglectful parenting styles had negative relationship with psychological capital, with statistical significance. Authoritative parenting style could predict psychological capital with statistical significance. In conclusion, the research showed that parenting style had influence on psychological capital and suitable parenting was a factor that could improve psychological capital among undergraduates.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้รูปแบบการอบรม เลี้ยงดูและต้นทุนทางจิตวิทยาของนิสิตระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง ปีการศึกษา 2559 จํานวน 402 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบประเมิน ต้นทุนทางจิตวิทยา และ แบบวัดต้นทุนทางจิตวิทยา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าความแปรปรวน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่านิสิตมีต้นทุนทางจิตวิทยาอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่รับรู้ว่า ตนเองได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ ต้นทุนทางจิตวิทยามีความแตกต่างกันตามรูปแบบการ อบรมเลี้ยงดู โดยพบว่าการอบรมเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่และแบบตามใจมีความสัมพันธ์ทางบวกกับ ต้นทุนทางจิตวิทยาอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ในขณะที่การอบรมเลี้ยงดูแบบควบคุมและแบบ ทอดทิ้งมีความสัมพันธ์ทางลบกับต้นทุนทางจิตวิทยาอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ และการอบรม เลี้ยงดูแบบเอาใจใส่สามารถทํานายต้นทุนทางจิตวิทยาได้อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ผลการศึกษานี้ แสดงให้เห็นว่าการอบรมเลี้ยงดูมีอิทธิพลต่อต้นทุนทางจิตวิทยา และการได้รับการอบรมเลี้ยงดู ในรูปแบบที่เหมาะสมจากครอบครัวเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดต้นทุนทางจิตวิทยาในนิสิตได้