ความเครียดจาการทำงานของพยาบาลชายในประเทศไทยและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดจากการ ทำงานของพยาบาลชาย เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวางโดยกลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลชายที่ ปฏิบัติงานอยู่ในประเทศไทยจำนวน359คนเลือกโดยการสุ่มแบบกระจายต่อเนื่องเก็บข้อมูลโดยให้ตอบ แบบสอบถามด้วยตนเอง วิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สถิติไคสแควร์และวิเคราะห์ความสามารถในการ ทำนายโดยใช้สถิติวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติก ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 32.3 มีความเครียดจากการทำงานสูง ผลการ วิเคราะห์ถดถอยโลจิสติก พบว่า อายุ (OR 2.17, 95% CI : 1.11-4.24),ค่าตอบแทน (OR2.00,95% CI: 1.21 - 3.31), สถานที่ปฏิบัติงาน (OR1.94,95% CI: 1.45- 3.35) แรงสนับสนุนทางสังคมจากผู้บังคับบัญชา (OR2.48,95% CI:1.40-4.39 ) ความคลุมเครือในบทบาท (OR2.38,95% CI:1.47-3.86 ) มีความสามารถ ทำนายการเกิดความเครียดจากการทำงานในพยาบาลชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากผลการศึกษา มีข้อเสนอแนะผู้บริหารทางการพยาบาลควรมีการเฝ้าระวังการเกิด ความเครียดจากการทำงานโดยเฉพาะกลุ่มพยาบาลชายที่มีรายได้มากเนื่องจากมีข้อเรียกร้องจากงานมาก เมื่ออายุเพิ่มขึ้นควรมีการเตรียมความพร้อมในการเผชิญและจัดการกับความเครียดจากการทำงาน นอกจากนั้นในกลุ่มที่ปฏิบัติงานที่มีลักษณะงานที่เร่งรีบ ฉุกเฉินควรมีการจัดตารางการทำงานที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้อยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดตลอดเวลา ผู้บังคัญบัญชาควรมีการอธิบายชี้แจงให้มีความชัดเจนใน บทบาทที่ได้รับ และให้การสนับสนุน เพื่อป้องกันการเกิดความเครียดจากการทำงานของพยาบาลชาย

This study aimed to examine the factors associated with job strain among male nurses employing a cross-sectional survey, with 359 samples, who were male nurses working in Thailand. The samples were drawn by snowball sampling. The data were collected by selfadministered questionnaires. Data were analyzed by descriptive statistics Chi - square, and logistic regression analysis. The results of the study revealed that 32.3 percent of the male nurses had high levels of job strain. Logistic regression analysis indicated that age (OR 2.17, 95% CI : 1.11- 4.24), average monthly income (OR2.00,95% CI: 1.21 - 3.31), work unit (OR1.94,95%CI:1.45-3.35), social support from supervisors (OR2.48,95% CI:1.40-4.39 ), and role ambiguity (OR2.38,95% CI:1.47-3.86 ) had the ability to predict the occurrence of job strain among male nurses with statistical significances. The results of the study suggest nursing administrators should be aware of job strain among male nurses especially among those aged > 35 years and those with a monthly income>30,000. they should be prepared for coping with job strain and acquire job stress management skills. Appropriate working schedule, should be arranged for those working in the emergency unit. Role clarifications and social support from supervisors should be enhanced to prevent job strain in male nurses.