Publication: Sexual risk behavior on HIV infection among military conscripts in Nahon Phanom
Issued Date
2008
Resource Type
Language
eng
ISSN
1905-1387
Rights
Mahidol University
Rights Holder(s)
ASEAN Institute for Health Development Mahidol University
Bibliographic Citation
Journal of Public Health and Development. Vol.6, No.1 (2008), 62 - 70
Suggested Citation
Nishiyama, Miki, มิกิ นิธิยามา, Jutatip Sillabutra, จุฑาธิป ศีลบุตร, Santhat Sermsri, สันทัด เสริมศรี Sexual risk behavior on HIV infection among military conscripts in Nahon Phanom. Journal of Public Health and Development. Vol.6, No.1 (2008), 62 - 70. Retrieved from: https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/1624
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Thesis
Title
Sexual risk behavior on HIV infection among military conscripts in Nahon Phanom
Alternative Title(s)
พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในการติดเชื้อเอชไอวี ของพลทหารกองประจำการ ในจังหวัดนครพนม
Other Contributor(s)
Abstract
Cross-sectional descriptive study was conducted to study sexual risk behavior on HIV
infection among military conscripts in Nakhon Phanom Province, Thailand. 179 conscripts were
selected from one unit in Nakhon Phanom.
53.63% of all conscripts had sexual intercourse after joining the military, and 43.02% of all
conscripts had sexual risk behavior on HIV infection. The proportion of consistently condom use
when had sexual intercourse with wife or girl friend was quite low (7.59%). The consistently
condom use was found with commercial sex workers (CSW) (50%).
Significant association was found between sexual risk behavior on HIV infection and having
partner, health risk behavior, experience of alcohol use, having sexual intercourse after drinking,
experience of drug use, availability of HIV/AIDS education (p<0.05).
The study suggested that military address and promote consistent condom use not only with
vulnerable group such as CSW and MSM, but also with wife or girl friend and with multiple
partners for HIV prevention. The availability of HIV/AIDS education and effective HIV/AIDS
education in the military camp are also needed to improve.
การศึกษาภาคตัดขวางนี้เป็นการศึกษาเรื่องพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในการติดเชี้อเอชไอวี ในกลุ่มพลทหารกองประจำการในจังหวัดนครพนม ประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างสำหรับการศึกษา ครั้งนี้คือพลทหารกองประจำการจำนวน 179 คน การศึกษาพบว่า 53.63 % ของพลทหารมีเพศสัมพันธ์ทางเพศหลังจากการเข้าเป็นพลทหารกองประจำการ และ 43.02% ของพลทหารมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในการติดเชื้อเอชไอวีสัดส่วนของการใช้ถุงยางอนามยของพลทหารเมื่อมี เพศสัมพันธ์กับภรรยาหรือแฟนค่อนข้างต่ำ (7.59%) แต่สำหรับกลุ่มหญิงขายบริการทางเพศมีสัดส่วนถึง 50% จากการศึกษายังพบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในการติดเชื้อเอชไอวีได้แก่ การมีคู่ก่อน การเขาเป็นพลทหารกองประจำการ การมีพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์หลังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการให้ความรู้เรื่องเอชไอวี เอดส์ (p<0.05)จากการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ากองทัพควรสนับสนุนให้พลทหารใช้ถุงยางอนามัย ขณะ มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอกับคู่นอนไม่เว้นแม้แต่ภรรยาหรือแฟนเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และปรับปรุงระบบการให้ความรู้เรื่องโรคเอชไอวี/เอดส์ในค่ายทหารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การศึกษาภาคตัดขวางนี้เป็นการศึกษาเรื่องพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในการติดเชี้อเอชไอวี ในกลุ่มพลทหารกองประจำการในจังหวัดนครพนม ประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างสำหรับการศึกษา ครั้งนี้คือพลทหารกองประจำการจำนวน 179 คน การศึกษาพบว่า 53.63 % ของพลทหารมีเพศสัมพันธ์ทางเพศหลังจากการเข้าเป็นพลทหารกองประจำการ และ 43.02% ของพลทหารมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในการติดเชื้อเอชไอวีสัดส่วนของการใช้ถุงยางอนามยของพลทหารเมื่อมี เพศสัมพันธ์กับภรรยาหรือแฟนค่อนข้างต่ำ (7.59%) แต่สำหรับกลุ่มหญิงขายบริการทางเพศมีสัดส่วนถึง 50% จากการศึกษายังพบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศในการติดเชื้อเอชไอวีได้แก่ การมีคู่ก่อน การเขาเป็นพลทหารกองประจำการ การมีพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์หลังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการให้ความรู้เรื่องเอชไอวี เอดส์ (p<0.05)จากการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ากองทัพควรสนับสนุนให้พลทหารใช้ถุงยางอนามัย ขณะ มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอกับคู่นอนไม่เว้นแม้แต่ภรรยาหรือแฟนเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และปรับปรุงระบบการให้ความรู้เรื่องโรคเอชไอวี/เอดส์ในค่ายทหารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น