Publication: Prevalence of Condom Use and Its Related Factors Among Men Who Have Sex With Men in Thailand
Issued Date
2019
Resource Type
Language
eng
ISSN
0125-3611 (Print)
2651-0561 (Online)
2651-0561 (Online)
Rights
Mahidol University
Rights Holder(s)
Ramathibodi School of Nursing Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital Mahidol University
Department of Medicine Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital Mahidol University
Department of Medicine Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital Mahidol University
Bibliographic Citation
Ramathibodi Medical Journal. Vol. 42, No. 4 (Oct-Dec 2019), 49-59
Suggested Citation
Sirinan Prakot, Sasisopin Kiertiburanakul, Poolsuk Janepanish Visudtibhan, ศิรินันท์ ปรากฎ, ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล, พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ Prevalence of Condom Use and Its Related Factors Among Men Who Have Sex With Men in Thailand. Ramathibodi Medical Journal. Vol. 42, No. 4 (Oct-Dec 2019), 49-59. Retrieved from: https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/72905
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Thesis
Title
Prevalence of Condom Use and Its Related Factors Among Men Who Have Sex With Men in Thailand
Alternative Title(s)
ความชุกของการใช้ถุงยางอนามัยและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย
Abstract
Background: The new challenge of human immunodeficiency virus (HIV) prevention exists in men who have sex with men (MSM) and becomes the key population accounting for the vast majority of new HIV infections worldwide. Consistent condom use has been proved to be effective to prevent HIV transmission. Promoting the use of condom is needed; however, knowledge on what factors relevant to the performance of this behavior among MSM in Thailand is limited.
Objectives: To examine the prevalence rate of condom use among MSM in Thailand, and to identify related factors of its use.
Methods: Participants were recruited using convenience sampling with inclusion criteria. The data were collected using an online questionnaire and then analyzed using chi-square test and Spearman rank correlation.
Results: A total of 153 data sets from participants were included in the analysis. The average age was 27.4 ± 5.8 years. The HIV positivity was 6.5%, and consistent condom use was 55.6%. The correlational analysis showed that age (P = .03), intention, attitude, subjective norms, and perceived behavioral control (P < .01) were significantly correlated with consistent condom use.
Conclusions: The interventions proposed to promote consistent condom use among MSM should focus on increasing intention, attitude, subjective norms, and/or perceived behavioral control, especially among young MSM in Thailand.
บทนำ: ความท้าทายของการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันเกิดขึ้นในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยงานวิจัยทั่วโลกพบความชุกและอุบัติการณ์ของการติดเชื้อเอชไอวีที่สูงขึ้นในกลุ่มประชากรนี้ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยต่างๆ ว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี อย่างไรก็ตาม การศึกษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศพบว่า ความชุกของการใช้ถุงอย่างอนามัยในประชากรกลุ่มนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความชุกของการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงศึกษาความสัมพันธ์ของการใช้ถุงยางอย่างสม่ำเสมอกับตัวแปรจากทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน ตัวแปรส่วนบุคคล และตัวแปรด้านพฤติกรรมเสี่ยงของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย วิธีการศึกษา: การศึกษาใช้แบบสอบถามออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างถูกสุ่มโดยใช้การสุ่มตามความสะดวก และมีเกณฑ์การคัดเข้า ร่วมกับการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ Chi-square test และ Spearman rank correlation ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จำนวนทั้งสิ้น 153 คน อายุเฉลี่ย 27.4 ± 5.8 ปี ความชุกของการติดเชื้อเอชไอวี คิดเป็นร้อยละ 6.5 ความชุกของการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอคิดเป็นร้อยละ 55.6 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้ถุงยางอนามัยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ อายุ (P = .03) เจตนาที่จะใช้ถุงยางอนามัย เจตคติต่อการใช้ถุงยางอนามัย การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย และการรับรู้ความสามารถในการใช้ถุงยางอนามัย (P < .01) สรุป: โปรแกรมส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายควรให้ความสำคัญในการเพิ่มความตั้งใจที่จะใช้ถุงยางอนามัย เจตคติต่อการใช้ถุงยางอนามัย การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย และการรับรู้ความสามารถในการใช้ถุงยางอนามัย
บทนำ: ความท้าทายของการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันเกิดขึ้นในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยงานวิจัยทั่วโลกพบความชุกและอุบัติการณ์ของการติดเชื้อเอชไอวีที่สูงขึ้นในกลุ่มประชากรนี้ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยต่างๆ ว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี อย่างไรก็ตาม การศึกษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศพบว่า ความชุกของการใช้ถุงอย่างอนามัยในประชากรกลุ่มนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความชุกของการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงศึกษาความสัมพันธ์ของการใช้ถุงยางอย่างสม่ำเสมอกับตัวแปรจากทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน ตัวแปรส่วนบุคคล และตัวแปรด้านพฤติกรรมเสี่ยงของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย วิธีการศึกษา: การศึกษาใช้แบบสอบถามออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างถูกสุ่มโดยใช้การสุ่มตามความสะดวก และมีเกณฑ์การคัดเข้า ร่วมกับการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ Chi-square test และ Spearman rank correlation ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จำนวนทั้งสิ้น 153 คน อายุเฉลี่ย 27.4 ± 5.8 ปี ความชุกของการติดเชื้อเอชไอวี คิดเป็นร้อยละ 6.5 ความชุกของการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอคิดเป็นร้อยละ 55.6 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้ถุงยางอนามัยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ อายุ (P = .03) เจตนาที่จะใช้ถุงยางอนามัย เจตคติต่อการใช้ถุงยางอนามัย การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย และการรับรู้ความสามารถในการใช้ถุงยางอนามัย (P < .01) สรุป: โปรแกรมส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายควรให้ความสำคัญในการเพิ่มความตั้งใจที่จะใช้ถุงยางอนามัย เจตคติต่อการใช้ถุงยางอนามัย การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย และการรับรู้ความสามารถในการใช้ถุงยางอนามัย