An analysis of Larry Grenadier's bass accompaniment in uneven meters

Abstract

The purpose of this research was to examine concepts and playing techniques of American bassist Larry Grenadier in his bass accompaniment, focusing on four songs that are in uneven meters, which are (1) I Didn't Know What Time It Was, (2) Anything Goes, (3) All The Things You Are, and (4) Along Together. For the research, the researcher transcribed three songs, and brings in transcription of the other song from previous research. The analysis was separated into three parts: (1) playing basic harmonic rhythm, (2) playing tied notes to generate phrasing variations, and (3) playing syncopation to generate phrasing variations. The analysis result showed that the playing techniques demonstrated in the transcriptions support Grenadier's concepts mentioned in his interview, which are based on the basic harmonic rhythm, with phrasing variations that are created with tied notes between notes in the basic harmonic rhythm, and syncopation in the form of both downbeat and upbeat. The analysis of the result has been applied to the researcher's Master Recital Concert that aims to perform in uneven meters. The researcher concluded that the playing techniques adapted from the four selected songs are applicable to other songs.

งานวิจัยชิ้นนี้มุ่งศึกษาวิเคราะห์แนวความคิดและวิธีการของนักเบสแจ๊สชาวอเมริกัน Larry Grenadier ในส่วนของการบรรเลงประกอบ โดยมุ่งเน้นแนวเพลงที่เล่นในอัตราจังหวะเลขคี่ 4 บทเพลง ได้แก่ (1) I Didn't Know What Time It Was, (2) Anything Goes, (3) All The Things You Are และ (4) Alone Together ในการศึกษานี้มีการแกะโน้ต 3 บทเพลงและมีการใช้โน้ตเพลงจาก งานวิจัยก่อนหน้านี้ 1 บทเพลง การวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ (1) พื้นฐานการแบ่ง จังหวะในการลงคอร์ด (2) การเล่นเชื่อมโน๊ตเพื่อสร้างความหลากหลายนบนทำนองหลัก และ (3) การเล่นจังหวะขัดเพื่อสร้างความหลากหลายบนทำนองหลัก ผลการวิเคราะห์พบว่าวิธีการบรรเลงที่ปรากฏในโน้ตเพลง ค่อนข้างสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับแนวความคิดของศิลปินทีให้ไว้ในบทสัมภาษณ์ ซึ่งมีการบรรเลงในลักษณะการแบ่งจังหวะในการลงคอร์ดแบบพื้นฐาน โดยมีการสร้างความเปลี่ยนแปลงบนทำนองหลักจากการเชื่อมโน้ต นอกจากนี้ยังมีการใช้จังหวะขัดทั้งที่อยู่ในจังหวะตกและจังหวะยก ผลการวิเคราะห์ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการแสดงเดี่ยวระดับปริญญาโท ที่มุ่งเน้นการเล่นในอัตราจังหวะเลขคี่ ผลการแสดงพบว่าวิธีการบรรเลงซึ่งประยุกต์ใช้จากการวิเคราะห์ 4บท เพลงที่กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถนำมาปรับใช้ในกับเพลงอื่นๆ ได้จริง