คู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง การจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ พร้อมแนวทางการคำนวณประสิทธิภาพ อาคารปฏิบัติการเรียนรวม (อาคารสิริวิทยา)
Issued Date
2567
Resource Type
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
106 หน้า, Full Text (Intranet only)
Access Rights
restricted access
Rights
ผลงานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ขอสงวนไว้สำหรับเพื่อการศึกษาเท่านั้น ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า
Rights Holder(s)
สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
Suggested Citation
อัครนันท์ เซี่ยงเห็น, ทศพร ศรีไกรรส (2567). คู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง การจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ พร้อมแนวทางการคำนวณประสิทธิภาพ อาคารปฏิบัติการเรียนรวม (อาคารสิริวิทยา). สืบค้นจาก: https://repository.li.mahidol.ac.th/handle/20.500.14594/110061
Title
คู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง การจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ พร้อมแนวทางการคำนวณประสิทธิภาพ อาคารปฏิบัติการเรียนรวม (อาคารสิริวิทยา)
Author(s)
Author's Affiliation
Abstract
อาคารปฏิบัติการเรียนรวม หรืออีกชื่อหนึ่งว่า อาคารสิริวิทยา เป็นอาคารการเรียนการสอนขนาดใหญ่อีกหนึ่งอาคาร ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยจุดประสงค์ของการก่อสร้างเพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบการเรียนการสอน การจัดประชุม สัมมนา อบรม การจัดการสอบแข่งขัน ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากร กายภาพของอาคาร เป็นลักษณะอาคารสูง 2 อาคาร ประกอบด้วยอาคารสูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และอาคารสูง 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร เชื่อมต่อกันเป็นรูปตัวแอล มีพื้นที่ใช้สอยคำนวณรวมทั้งสิ้น 16,342 ตารางเมตร โดยอาคารก่อตั้งแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้งานอาคารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน ระบบไฟฟ้าของอาคาร และการบริหารจัดการระบบวิศวกรรมควบคุมไฟฟ้าที่สำคัญหลายระบบ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการรองรับการใช้งานอาคารทุกรูปแบบ ทั้งระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ผ่านอุปกรณ์ประกอบระบบ เพื่อให้อาคารสามารถใช้งานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ภายหลังหมดระยะประกันความชำรุดบกพร่องของของอาคาร จนกระทั่งปี พ.ศ. 2564 อาคารสิริวิทยามีการจ้างเหมาบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) งานระบบไฟฟ้า เป็นประจำต่อเนื่องทุกปี หรือที่เรียกกันว่า การ P.M. ระบบประจำปี ความหมายคือ การบำรุงรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เกิดความชำรุด เสียหาย จนส่งผลกระทบให้อาคารไม่สามารถใช้ไฟฟ้าเพื่อรองรับการเรียนการสอน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ได้ โดยมหาวิทยาลัยได้จัดสรรงบประมาณลงทุนสำหรับการบำรุงรักษาเชิงป้องกันระบบไฟฟ้าอาคารสิริวิทยาในทุก ๆ ปี โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการกำหนดรายละเอียดขอบเขตงานตามมาตรฐาน ไปจนถึงการตรวจรับงานจ้างบำรุงรักษา ซึ่งกระบวนการบำรุงรักษาระบบทั้งหมด จำเป็นต้องใช้งบประมาณและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น จนเสร็จสิ้นกระบวนการบำรุงรักษาตามมาตรฐานในราคาที่สูงต่อปีอยู่พอสมควร แต่ไม่มีแนวทางขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ถ่ายทอดไว้อย่างชัดเจน รวมไปถึงยังไม่มีแนวทางของการรับรู้และเก็บข้อมูลสถิติที่ถูกต้องของผู้ดูแลอาคาร เพื่อนำสถิติดังกล่าวมาคำนวณหาค่าประสิทธิภาพเปรียบเทียบของระบบภายหลังการบำรุงรักษาในแต่ละปี เพื่อทำนายแนวโน้มของการบำรุงรักษาระบบในภาคอนาคตด้วย
ดังนั้น เพื่อให้การตรวจสอบ ดูแลระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบของอาคารสิริวิทยาได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านการบำรุงรักษา และแนวทางการดำเนินการของผู้เกี่ยวข้องในการเก็บข้อมูล เพื่อนำมาศึกษาวิเคราะห์เพิ่มเติมเชิงรูปธรรมที่ชัดเจนในส่วนของรายงานประสิทธิภาพของการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ภายหลังการดำเนินการไปแล้วในรูปแบบตัวเลข และสามารถนำผลการศึกษาที่ได้มาวางแผนวิธีการบำรุงรักษาตามอายุการใช้งานของระบบบไฟฟ้าอย่างเหมาะสมต่อไป ผู้จัดทำจึงจัดทำคู่มือแนวทางการบำรุงรักษาเพื่อคำนวณประสิทธิภาพของการบำรุงรักษาเชิงป้องกันระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ อาคาร
ปฏิบัติการเรียนรวม (อาคารสิริวิทยา) เพื่อมอบหมายให้วิศวกร และช่างผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ได้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานเดียวกัน และเป็นการยกระดับการบำรุงรักษาเชิงป้องกันในแง่มุมประสิทธิภาพของระบบที่ชัดเจนขึ้นในรูปแบบของร้อยละประสิทธิภาพคงเหลือในรูปแบบผลลัพธ์ที่แสดงถึง สมรรถนะการทำงานสูง (performance) มีความเชื่อถือได้ (reliability) เพื่อเป็นการรับรองว่าระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคารสิริวิทยา ที่ได้รับการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเป็นประจำทุกปี สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุนในการบำรุงรักษาประจำปี ช่วยประเมินอายุการใช้งานที่ปลอดภัยของอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้าว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อการบำรุงรักษา หรืออุปกรณ์เสื่อมสภาพจนไม่คุ้มค่ากับการซ่อมบำรุง ก็จะนำไปสู่แนวทางการเปลี่ยนอุปกรณ์ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างต่อเนื่อง